นายสุรพงษ์ ไพสิฐพัฒนพงษ์ รองประธานและโฆษกกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยในงานแถลงดัชนีความเชื่อมั่นอุตสาหกรรมเดือน มิ.ย.63 ว่า การส่งออกรถยนต์สำเร็จรูป มิ.ย.63 อยู่ที่ 50,049 คัน ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 48.71% ซึ่งลดลงทุกตลาด เนื่องจากประเทศคู่ค้ายังคงได้รับผลกระทบจากไวรัสโควิด-19 โดยมีมูลค่าการส่งออก 29,238.83 ล้านบาท ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 43.06%

ส่วนมูลค่าการส่งออกรถยนต์ เครื่องยนต์ ชิ้นส่วนรถยนต์ และอะไหล่ มีมูลค่า 36,060.74 ล้านบาท ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 50.52% ขณที่ 6 เดือนแรก ส่งออกรถยนต์สำเร็จรูป 350,550 คัน ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 37.39% มีมูลค่าการส่งออก 187,979.53 ล้านบาท ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 34.09%

ส่วนยอดผลิตรถยนต์อยู่ที่ 71,704 คัน ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 58.52% จากการผลิตเพื่อส่งออกลดลง 49.19% และผลิตเพื่อจำหน่ายในประเทศลดลง 67.39% ทั้งนี้ เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้า พบว่า ยอดผลิตรถยนต์เพิ่มขึ้น 27.96% เนื่องจากผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมยานยนต์ส่วนใหญ่เปิดทำการ และโรงงานเริ่มเปิดสายการผลิตรถยนต์ สำหรับ 6 เดือนแรก (ม.ค.-มิ.ย.) มีจำนวนทั้งสิ้น 606,132 คัน ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 43.14%

ด้านการผลิตเพื่อส่งออกผลิตได้ 42,796 คัน เท่ากับ 59.68% ของยอดการผลิตทั้งหมด ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 49.19% ส่วน 6 เดือนแรก ผลิตเพื่อส่งออกได้ 346,378 คัน หรือเท่ากับ 57.15% ของยอดการผลิตทั้งหมด ลดลงจากปี 62 ที่อยู่ที่ 37.87%

ส่วนการผลิตเพื่อจำหน่ายในประเทศมิ.ย.ผลิตได้ 28,908 คัน เท่ากับ 40.32% ของยอดการผลิตทั้งหมด ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 67.39% และ 6 เดือน ผลิตได้ 259,754 คัน เท่ากับ 42.85% ของยอดการผลิตทั้งหมด

สำหรับยอดขายรถยนต์ภายในประเทศ มิ.ย. มีทั้งสิ้น 58,013 คัน ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 32.6% แต่เพิ่มขึ้นจากเดือนพ.ค.ที่ผ่านมา 43.53% โดยยอดขายในประเทศเพิ่มขึ้นเนื่องจากรัฐบาลผ่อนคลายการล็อกดาวน์และการช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ขณะที่ยอดขายรถยนต์ในประเทศ 6 เดือน มีทั้งสิ้น 328,604 คัน ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 37.3%

นายสุรพงษ์ กล่าวว่าสรุปว่า สำหรับปีนี้ คาดว่า ยอดการผลิตรถยนต์ 1-1.4 ล้านคัน จะเป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ โดยเป็นยอดการส่งออกรถยนต์ 700,000 คัน และยอดขายในประเทศ 700,000 คัน บนพื้นฐานไม่มีการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ระยะที่ 2

• Facebook
• Twitter
• Line