นายกรัฐมนตรี ย้ำ ที่ประชุมแก้จน ต้องแก้ปัญหาตั้งแต่ระดับพื้นที่

Highlight, สังคม
9 กุมภาพันธ์ 2022

นายกรัฐมนตรี ย้ำ ที่ประชุมแก้จน ต้องแก้ปัญหาตั้งแต่ระดับพื้นที่ ชี้ การใช้จ่ายงบประมาณต้องถึงประชาชนให้ได้มากที่สุด บอก รัฐบาลพยายามตรึงราคาน้ำมัน พร้อมหามาตรการที่เหมาะสม หลังปัญหาสะสมผูกพันมานาน ลั่น อย่าเอาปัญหาฝ่ายบริหาร-การเมือง มาตีกันอยู่อย่างนี้ เพราะจะเดินหน้าไม่ได้

 

พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวภายหลังการเป็นประธานการประชุม คณะกรรมการขจัดความยากจนและพัฒนาคนทุกช่วงวัยอย่างยั่งยืนตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ครั้งที่ 1/2565 ว่าการประชุมในวันนี้ถือเป็นการประชุมที่สำคัญที่ต้องแก้ไขปัญหาแบบพุ่งเป้า ซึ่งรัฐบาลได้ดำเนินการมาโดยตลอด แต่จำเป็นต้องมาทบทวนว่ามีผลความคืบหน้าดำเนินการสำเร็จไปมากน้อยเพียงใด ซึ่งต้องใช้ข้อมูลที่มีอยู่ในปัจจุบัน ที่มีความทันสมัยมากขึ้น รวมไปถึงมีการปรับในการทำข้อมูล ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ซึ่งหลายอย่างก็ทำให้สามารถดำเนินการต่อไปได้ รวมไปถึงมุ่งเน้นไปที่การใช้ IP Map และข้อมูลต่างๆของหลายกระทรวงมาประกอบกัน เพื่อให้เข้าถึงประชาชนทุกกลุ่มทุกช่วงวัย ซึ่งปัญหาความยากจนนั้นมีอยู่หลายอย่างทั้ง รายได้ สุขภาพ ที่อยู่อาศัย การศึกษา ซึ่งในระยะเวลาที่เหลืออยู่ ก็จะพุ่งเป้าตรงนี้ลงไป อย่างน้อยเพื่อให้เกิดผลที่เป็นรูปประธรรม ในทุกพื้นที่ทุกจังหวัดที่มีความพร้อม ยอมรับว่าคงไม่สามารถทำทีเดียวได้ทั้งหมด แต่ที่ผ่านมาก็ทำกันอยู่แล้ว เพื่อให้สามารถดำเนินการต่อได้ในระยะยาว และเกิดความยั่งยืน จึงขอความร่วมมือกับทุกกระทรวง พร้อมย้ำว่าการแก้ไขปัญหาความยากจนต้องแก้ในพื้นที่ ซึ่งทุกกระทรวงจะต้องสนับสนุน ในแผนงานต่างๆเหล่านี้ ทั้งแนวปฏิบัติกลไก การใช้จ่ายงบประมาณต่างๆ ที่มีอยู่ในปีงบประมาณ 2565 เพื่อให้ถึงประชาชนให้ได้มากที่สุด และสร้างความเข้มแข็งให้กับประชาชน

 

ขณะที่ราคาน้ำมันพุ่งสูง จะต้องมีการทบทวนการปรับอัตราภาษี น้ำมันหรือไม่ นายกรัฐมนตรีระบุว่าเมื่อวานนี้ได้มีการหารือไปแล้ว ขอให้รออีกสักนิด เนื่องจากกำลังหารือในรายละเอียดอยู่ หากมีการปรับตรงนู้นตรงนี้ จะเห็นได้ว่ารัฐบาลมีแผนการดำเนินการมาโดยตลอด ไม่ว่าจะในเรื่องกองทุนน้ำมัน กรอบวงเงินกู้ไว้เพื่อชดเชย เนื่องจากกองทุนน้ำมันขณะนี้นั้นติดลบ รวมไปถึงต้องเตรียมการรองรับปัญหาเรื่องก๊าซ พร้อมกับระบุว่าสาเหตุหลักไม่ได้มาจากเรา แต่มาจากต้นทุนทางด้านพลังงาน ซึ่งไทยก็มีการพึ่งพาจากต่างประเทศ ในวัตถุดิบที่นำเข้ามา หากไปเปรียบเทียบดูกับรอบบ้าน ว่าเขาเป็นอย่างไร และประเทศไทยอยู่ในกลุ่มไหน ยอมรับว่าหลายประเทศอาจมีราคาน้ำมันที่ถูกกว่าประเทศไทยหน่อย เนื่องจากมีแหล่งพลังงานภายในประเทศ ขอให้ไปเปรียบเทียบดูเอาก็แล้วกัน ขอให้รออีกสักนิด เพราะการดูแล จะต้องดูแลคนกลุ่มนู้นกลุ่มนี้ โดยเฉพาะคนที่มีรายได้ไม่มาก เพราะฉะนั้นจะต้องช่วยกัน ถ้าให้กลุ่มนี้มากแล้วกลุ่มอื่นก็ไม่ได้ แก้ไม่ได้จะทำอย่างไร และมองว่าสถานการณ์พลังงานยังผูกพันอีกเยอะ และไม่ใช่ในระยะเวลาอันสั้น จะเอางบประมาณตรงไหนมาถมตรงนี้ เพราะฉะนั้นจะต้องหาวิธีการที่เหมาะสม อย่างการควบคุมราคาน้ำมันดีเซลไม่ให้เกินลิตรละ 30 บาท ปรับสูตรน้ำมัน ปรับภาษีสรรพสามิต แต่อย่าลืมว่าหากเกี่ยวข้องกับเรื่องเหล่านี้จะทำให้รายได้รัฐนั้นลดลงมาก แล้วส่งผลกระทบต่อส่วนอื่นหรือไม่ ขอให้ฟังเหตุฟังผลกันบ้าง จะเอาตามใจทุกคนเท่านั้นเท่านี้บางทีปัญหาเยอะ ใช้เงินเดือนละ 3,000 กว่าล้าน หากยาวไป 6 เดือนก็ 1.8 หมื่นล้าน รัฐบาลพยายามตรึงราคาให้ได้มากที่สุด ก็คงต้องบริหารแบบนี้

 

ส่วนต้องทำความเข้าใจสมาคมรถบรรทุกหรือไม่นายกรัฐมนตรีระบุว่า ตนได้ขอร้องมาหลายครั้งแล้ว และเมื่อวานก็เข้าใจในส่วนหนึ่ง ต้องยอมรับว่าประเทศไทยกำลังเผชิญวิกฤตหลายด้าน อย่างที่รัฐบาลไหนไม่เคยเจอมาก่อนทั้งโควิด ราคาน้ำมัน การแข่งขันทางการค้า ความมั่นคงทางภูมิภาค ความขัดแย้งทางทะเล การแข่งขันทางการลงทุนการย้ายฐานการผลิต ซึ่งประเทศไทยมีศักยภาพมาก ต้นก็พยายามพูดคุยกับต่างประเทศและต่างประเทศเองก็ชื่นชมไทยทั้งหมดในทุกเรื่อง ไม่ใช่ว่าตนคุย เขาชมประเทศไทยทั้งในเรื่องการบริหารจัดการโควิด สิ่งดีๆเกิดขึ้นเยอะ จึงขอร้องสื่อช่วยกรุณา ให้ข้อมูลไว้ด้วยแล้วกัน สิ่งที่มีปัญหาก็ไปแก้กันตรงนู้น อย่าเอาปัญหาฝ่ายบริหารกับฝ่ายการเมือง มาตีกันอยู่อย่างนี้ เพราะจะเดินหน้าไม่ได้ ไม่มีใครเขาทำ ตนขอแค่นั้นเอง

บทความที่เกี่ยวข้อง