นายสิระ เจนจาคะ ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ ในฐานะประธานกรรมาธิการ กฎหมายการกฎหมายการยุติธรรมและสิทธิมนุษยชน เปิดเผยถึงการลงพื้นที่บ้านกกกอก จังหวัดมุกดาหาร เพื่อติดตามความคืบหน้าคดีของน้องชมพู่ ที่เสียชีวิตปริศนา บนภูเหล็กไฟ โดยยอมรับว่าจากการลงพื้นที่ มีความยากลำบากในการทำคดี ทั้งปัญหาและระยะทาง ที่สำคัญไม่มีพยานหลักฐานอะไรเลย จึงเข้าใจว่าเหตุใดตำรวจจึงต้องตรวจดีเอ็นเอของคนในหมู่บ้าน 160 คน และสอบสวนคนในพื้นที่นับพันคน เพื่อหาหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์แทน แต่ก็พบว่าจากการลงพื้นที่มีประชาชนร้องเรียนต่อการทำหน้าที่ของตำรวจ จึงได้กำหนดให้เจ้าหน้าที่ตำรวจต้องรายงานความคืบหน้าของคดีให้กรรมาธิการรับทราบทุกสัปดาห์ ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ยืนยันว่าจะให้ความเป็นธรรมกับคดีนี้อย่างถึงที่สุด พร้อมเปิดเผยว่า จากการลงพื้นที่เมื่อวานนี้ บรรยากาศในบ้านกกกอกดีขึ้น หลังจากเกิดความขัดแย้ง ทุกบ้านกลับมาปรองดองกันเกือบปกติ เหลือเพียงแค่แม่ของน้องชมพู่ ที่ยังไม่สามารถปรับความเข้าใจกับคนอื่นๆได้ ขณะที่พ่อของน้องชมพู่ก็กอดคอคุยกันกับลุงพลเรียบร้อยแล้ว และย้ำว่า การทำคดีนี้ไม่ควรเข้าไปกดดันหรือแทรกแซงโดยเฉพาะสื่อมวลชน ขอให้อยู่ในกรอบ ไม่ทำเกินเลยหน้าที่
ขณะเดียวกันวันนี้ได้เชิญสถานีโทรทัศน์ 2 ช่อง ได้แก่ อมรินทร์ทีวีและไทยรัฐทีวี มาชี้แจงการนำเสนอข่าวเรื่องนี้ หลังจากวานนี้ลงพื้นที่และมีประชาชนร้องเรียนว่าละเมิดสิทธิของคนในหมู่บ้าน ดังนั้นจำเป็นต้องมาตรวจดูหลักการว่า เป็นการกระทำผิดจรรยาบรรณสื่อหรือไม่ แต่ต้องดูด้วยว่านักข่าวที่ลงพื้นที่ทำหน้าที่เกินความเป็นสื่อหรือไม่
นายสิระ ยังกล่าวถึงกรณีที่นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม นำใบชันสูตรศพของน้องชมพู่มาเปิดเผย โดยยืนยันจะไม่เชิญบุคคลนี้มาชี้แจงในกรรมาธิการ เพราะถือว่าเป็นบุคคลที่ไม่มีราคา ไม่มีค่า ที่ กมธ.จะต้องมาเสียเวลาด้วย