นายกรัฐมนตรี ยันยังไม่ล็อกดาวน์ประเทศ ขอรอประเมินยอดผู้ติดเชื้อรายวัน วอนประชาชนล็อกตัวเอง เตรียมนำเข้าวัคซีนแหล่งใหม่ 2 ล้านโดสในอีก 2 เดือน ห่วงบุคลากรทางการแพทย์ รับ กำลังคิดพักชำระหนี้ผู้ประกอบการ
พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนภายหลังเข้าสักการะศาลพระภูมิ-เจ้าที่ และศาลพระพรหม ในช่วงเทศกาลปีใหม่ ถึงสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด – 19 ว่า ต้องขอความร่วมมือด้วยกันทุกฝ่าย โดยต้องหาทางว่าจะทำอย่างไร ปัญหาเหล่านี้เกิดขึ้นมาตลอดเวลาไม่ใช่เฉพาะโควิด หลายเรื่องที่จะแก้ไขได้ก็กลับแก้ไขปัญหาไม่ได้ หากพูดก็พูดได้ แต่หากจะทำต้องดูว่าคนไทยมีจำนวนเท่าไร ซึ่งก็ยากอยู่เหมือนกัน แต่ไม่ยากหากทุกคนร่วมมือกัน
ในโอกาสวันขึ้นปีใหม่ในช่วงที่ผ่านมาทุกคนคงมีความสุขตามสมควร ใช้เวลาอยู่กับครอบครัว หลายคนได้เดินทางท่องเที่ยว ขอให้ระมัดระวังอย่างที่สุด ไม่ว่าจะออกมาตรการอะไรออกมาแล้วไม่ทำตามสิ่งเหล่านั้นก็ปัญหาทั้งหมด สถาการณ์โควิดก็จะเกิดความรุนแรงมากยิ่งขึ้น
อย่างไรก็ตาม นายกรัฐมนตรีได้จัดหาแนวทางการจัดซื้อวัคซีนต่างๆ โดยคาดการณ์ว่าในอีก 1 -2 เดือนจะได้วัคซีนในส่วนแรก แต่เป็นิกของประเทศ แต่ก็มีความจำเป็นที่ต้องนำเข้ามา เนื่องจากเป็นห่วงบุคลากรทางการแพทย์ จำนวน 2 ล้านโดส โดยที่เหลือต้องรออีกแหล่งที่มีการสั่งจองไปก่อนหน้านี้ 26 ล้านโดส ซึ่งทั้งหมดต้องหารือร่วมกันกับกระทรวงสาธารณสุข ซึ่งตลอดช่วงวันหยุดที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ไม่ได้หยุดทำงาน ซึ่งต้องให้กำลังใจ ศบค. หน่วยงานมั่นคง และพื้นที่ผู้ว่าราชการจังหวัด เนื่องจากทำงานกันอย่างเต็มที่ จึงต้องขอความร่วมมือจากคยหมู่มาก เพราะอย่างไรเจ้าหน้าที่ก็ไม่เพียงพอจะมาเฝ้าตรวจทุกคน ทุกคนต้องรักครอบครัวตัวเอง รักคนอื่น รักสังคม ทำอะไรที่มีความเสี่ยงก็อย่าไปทำ หลายอย่สงเกิดขึ้นมาแล้วก็ต้องแก้ปัญหา และจะทำอย่างไรไม่ให้เกิดขึ้นอีก
ทั้งนี้นายกรัฐมนตรี ยังอวยพรว่าขอให้ปีหน้าปีใหม่ปีนี้เป็นปีแห่งความสำเร็จในการแก้ไขปัญหา หลายเรื่องมีการดำเนินการไปแล้ว แต่ไม่ได้พูดเป็นเพียงการดำเนินการออกมา หากพูดก่อนก็จะเกิดกระแสต่อต้าน ส่วนเรื่องเศรษฐกิจทุกคนก็รู้ดีอยู่แล้วว่าต้องลดลง ซึ่งรัฐบาลกำลังหามาตรการที่เหมาะสม วันนี้ตนเป็นห่วงทั้ง 28 จังหวัดที่มีการแพร่เชื้อจำนวนมาก หากคุมได้ทุกคนอยู่ในจังหวัดไม่ไปไหนก็จะแก้ไขได้เป็นจังหวัด
โดยนายกรัฐมนตรี ยังแสดงความห่วงใยผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร อยากให้กำลังใจหายโดยเร็ว เนื่องจากทำงานเพื่อประชาชน ซึ่งหลายพื้นที่มีจำนวนตัวเลขผู้ติดเชื้อสูงขึ้น ซึ่งต้องมาดูว่าจะมีวินัยกันอย่างไร โดยที่ไม่ต้องให้เจ้าหน้าที่ไปควบคุม ตรวจหรือจับกุม การควบคุมตัวเองให้ได้เสียก่อนจะดีที่สุด รัฐบาลรับผิดชอบอยู่แล้วทุกเรื่อง ว่าจะแก้ไขปัญหาอย่างไร
ส่วนปัญหาการแพร่ระบาดภายในบ่อนการพนันนั้น นายกรัฐมนตรี ระบุว่า เดี๋ยวตนจัดการของตนเอง การโยกย้ายเจ้าหน้าที่เป็นเรื่องธรรมดา หากปล่อยให้มีบ่อยการพนันในพื้นที่
ทั้งนี้นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวถึงการล็อกดาวน์ทั้งประเทศว่า หากยอดผู้ติดเชื้อสูงขึ้นค่อยว่ากันอีกที
ส่วนการเดินทางของนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ ซึ่งอาจส่งผลกระทบกับการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสสายพันธุ์ใหม่นั้น นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า นักท่องเที่ยวเดินทางเข้าประเทศมีจำนวนน้อย เชื้อสายพันธุ์ใหม่เป็นเหมือนสายพันธุ์เดิมเพียงแต่สู้ต่อสภาพแวดล้อมได้มากขึ้น ติดเชื้อได้ง่ายกว่าเดิม และเเพร่ได้ไวกว่าเดิม
ด้านขอเรียกร้องของผู้ประกอบการให้พักชำระหนี้ นายกรัฐมนตรี ระบุว่า กำลังคิดอยู่ ขอเก่ายังไม่จบเลย ขอรอดู อะไรจำเป็นต้องทำต่อก็ทำให้ ต้องมีวิธีการหาเงินมาใช้ด้วย แต่เงินเอามาจากไหนไม่ได้เลยก็จบ
ทั้งนี้นายกรัฐมนตรี ระบุว่า ขณะนี้มีการประเมินสถานการณ์แบบรายวัน โดยจะดู 14 วันซึ่งถือเป็นระยะปลอดภัย ถ้าทุกคนรู้ว่ามีความเสี่ยงอยู่บ้าน 14 วัน ทำงานที่บ้าน โรงเรียนก็ปิด เว้นแต่ ที่ใดมีมาตรการที่รัดกุม ไม่อยากล็อกดาวน์ทั้งประเทศ เพราะหากล็อกดาวน์ก็รู้ว่าปัญหาคืออะไร เพราะฉะนั้นขอประชาชนล็อกดาวน์ตัวเองได้หรือไม่ ทุกอย่างอยู่ที่ทุกคน หากไม่อยากติดเชื้อก็ไม่ต้องไปไหน ถ้าทุกคนคิดแบบนี้ก็จะสามารถคัดกรองได้ง่ายขึ้น หากทุกคนยังไม่มาหาสู่ก็คัดกรองคน 70 ล้านคนไม่ไหว
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่าการที่ภาครัฐไม่ประกาศล็อกดาวน์จะทำให้ประชาชนล็อกดาวน์ตัวเองได้ยากนั้น นายกรัฐมนตรี ตอบด้วยน้ำเสียงฉุนเฉียวว่า แล้วจะให้ทำอย่างไร หากบอกว่าให้ประชาชนล็อกดาวน์ตัวเองเป็นเรื่องยาก เอาแค่ใส่หน้ากากทำได้หรือไม่ พูดให้ทุกคนใส่หน้ากากสิ ตนไม่เคยเห็นว่าสื่อสำนักไหนเขียนเลย