พลเอกประวิตร ขยายต่อพรกฉุกเฉินในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ออกไปอีก 3 เดือนถึง 20 มีนาคม 2564 ย้ำเจ้าหน้าที่ บังคับใช้กฎหมายอย่างเป็นธรรม เข้มคดียาเสพติดในพื้นที่
พลตรีพัชร์ชศักดิ์ ปฏิรูปานนท์ ผู้ช่วยโฆษกประจำรองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า วันนี้พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีเป็นประธานการประชุม คณะกรรมการบริหารสถานการณ์ฉุกเฉิน ครั้งที่ 4/2563
โดยที่ประชุม ได้รับทราบผลการปฏิบัติงาน ตามพระราชกำหนดการบริหารราชการ ในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 ห้วงวันที่ 20 ก.ย.-12 พ.ย.63 ซึ่งภาพรวมมีสถานการณ์ที่ดีขึ้น เหตุการณ์การก่อเหตุร้าย มีแนวโน้มลดลง อย่างต่อเนื่อง ประชาชนในพื้นที่ได้รับการดูแล ความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินจากเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคง พร้อมทั้งมีความเข้าใจในความจำเป็นของการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่รัฐ โดยได้ให้การสนับสนุน และให้ความร่วมมือ เป็นอย่างดี แต่อย่างไรก็ตามจากการประเมินสถานการณ์ด้านการข่าว พบว่าผู้ก่อเหตุความรุนแรงยังมีศักยภาพในการปฏิบัติการและยังมีสิ่งบอกเหตุ ที่จะก่อให้เกิดความเสียหายร้ายแรงในรูปแบบต่างๆในพื้นที่ จึงยังมีความจำเป็นที่จะต้องคงการใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ต่อไปอีก ทั้งนี้ ที่ประชุม ยังได้รับทราบเรื่องที่ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักรหรือ กอ.รมน. ภาค4 จะดำเนินการ จัดทำแผน การปรับลดพื้นที่ การประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน เพื่อรองรับการพัฒนาเศรษฐกิจ/สังคม ในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ รวมถึงการส่งเสริม ให้มีการสร้างงาน สร้างอาชีพ แก่พี่น้องประชาชน ในพื้นที่ด้วย
คณะกรรมการฯ ได้มีการพิจารณาเห็นชอบ ตามที่ กอ.รมน. ภาค 4 เสนอขอขยายระยะเวลาการประกาศ สถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรง ในพื้นที่ 3 จชต. ยกเว้น อ.แม่ลาน ,อ.ไม้แก่น จ.ปัตตานี ,อ.เบตง จ.ยะลา และ อ.สุไหงโก-ลก ,อ.สุคิริน , อ.ศรีสาคร จ.นราธิวาส ออกไปอีกเป็นเวลา 3 เดือน ตั้งแต่ 20 ธ.ค.63 ถึง 19 มี.ค.64 (ครั้งที่ 62) เพื่อแก้ปัญหาความไม่สงบในพื้นที่ 3 จชต.ให้มีความต่อเนื่อง และมีประสิทธิภาพ ต่อไป
พลเอกประวิตร ได้สั่งการ กอ.รมน. และ สมช.ให้ร่วมกันจัดทำแผนการปรับลดพื้นที่ควบคุม เพื่อเตรียมรองรับการพัฒนาเศรษฐกิจ/สังคม และส่งเสริมการสร้างงาน สร้างอาชีพให้กับพี่น้องประชาชนในพื้นที่ พร้อมกำชับ การแก้ไขปัญหาในพื้นที่จะต้องให้สอดคล้อง กับความต้องการของประชาชน อย่างแท้จริง และเน้นย้ำ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ หรือ สตช. และขอให้อัยการสูงสุด เร่งจัดตั้งสำนักงานคดีความมั่นคง ภาค9 และให้มีการบังคับใช้กฎหมาย อย่างเคร่งครัด เป็นธรรม รวดเร็ว เพื่อเป็นการป้องกัน/ป้องปราม ไม่ให้มีการก่อเหตุร้าย และ ช่วยดูแลรักษาความปลอดภัยในชีวิต และทรัพย์สิน ของพี่น้องประชาชน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ให้เข้มงวดมาตรการป้องกันยาเสพติดในพื้นที่ ตามนโยบายของรัฐบาล ต่อไป
พลเอกประวิตร ยังได้กล่าวขอบคุณประชาชนที่มีความเข้าใจถึงความจำเป็นในการทำงานและให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่รัฐ ด้วยดี พร้อมกล่าวให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ซึ่งได้ทุ่มเท เสียสละ การปฏิบัติงานได้อย่างดียิ่ง ให้สามารถบรรลุภารกิจ และมีความปลอดภัย กันทุกคน