พรรคกล้าเปิดแนวคิด “8 ประตูนำ เป๋าตังเป็นเป๋าโต” ขยายผลคนละครึ่ง กุญแจปฏิรูประบบราชการ ผลักดันเป็นแพลตฟอร์มแห่งชาติ สู่ศตวรรษที่ 21
ที่อาคารเอเชียบิวดิ้ง นายกรณ์ จาติกวณิช หัวหน้าพรรคกล้า พร้อมด้วยนายวรวุฒิ อุ่นใจ รองหัวหน้าพรรคฯ และทีมเศรษฐกิจเพื่อคนตัวเล็ก ร่วมกันแถลงข่าวถึงแนวคิด “8 ประตูนำ เป๋าตังเป็นเป๋าโต” ขยายผลโครงการ “คนละครึ่ง” ของรัฐบาล เพื่อเป็น “SuperApp” สำหรับประชาชนคนไทยทุกคน
โดยนายกรณ์ กล่าวว่า แนวคิดดังกล่าวเกิดจากความต้องการเติมความสามารถของแอพเป๋าตัง และโครงการคนละครึ่งของรัฐบาล ได้รับผลตอบรับเป็นอย่างดีจากประชาชน และสามารถกระตุ้นเศรษฐกิจได้จากระดับฐานราก ซึ่งหากเราเพิ่มความสามารถแอพให้มากขึ้น ก็จะเป็นเครื่องมือของภาครัฐในการให้บริการประชาชนได้อย่างหลากหลายมากขึ้น
นายกรณ์ กล่าวถึง 8 ข้อเสนอดังกล่าว ประกอบไปด้วย
1.ประตูเปิดสู่ National e-Marketplace แรกของคนไทย
2.ประตูเปิดสู่ การหยุดข้อมูลรั่วไหลไปสู่ Platform ต่างชาติ
3.ประตูเปิดสู่ การเข้าถึง Data เพื่อทุกธุรกิจ
4.ประตูเปิดสู่ การไม่เสียค่า GP
5.ประตูเปิดสู่ ระบบเงินกู้ที่ทุกคนเข้าถึงได้
6.ประตูเปิดสู่ การเป็น Digital ID ของคนไทยทุกคน
7.ประตูเปิดสู่ การเข้าถึงทุกสวัสดิการของรัฐและ
8.ประตูเปิดสู่ การรับสิทธิอย่างมีประสิทธิภาพ โดยทั้ง 8 แนวคิดดังกล่าวจะเป็นเสมือนประตูสู่ศตวรรษที่ 21 ด้วยการเป็น National Platform และนำไปสู่การปฏิรูประบบราชการ ซึ่งเป็นเป้าหมายหลักของพรรคกล้า ทั้งนี้ตนหวังว่ารัฐบาลจะนำโครงการดังกล่าวนี้ไปต่อยอด เพราะเชื่อว่ารัฐบาลมีความตั้งใจว่าจะไม่หยุดเพียงเท่านี้
ทางด้านของ นายวรวุฒิ กล่าวว่า แนวคิดนี้ นับเป็นการเปิดประตูแห่งโอกาส โดยใช้มือถือในการสร้างอาชีพต่อยอดจากผู้ใช้แอพเป๋าตังในปัจจุบัน สู่การได้ประโยชน์ต่อประชาชนในอุตสาหกรรมที่หลากหลายทั่วประเทศ โดยเป๋าตังค์จำเป็นต้องเป็นโครงสร้างพื้นฐานช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจประเทศด้วยดิจิตัล
ทั้งนี้จึงใช้โอกาส จากโครงการคนละครึ่ง ที่ประชาชนเปิดใจยอมรับเศรษฐกิจดิจิทัล ขยายฐานผู้ใช้ กระจายข้อมูลสู่ผู้ประกอบการ และเชื่อมโยงส่วนกลางเพื่อพัฒนาอุตสาหกรรม ลดอุปสรรคในการนำสินค้าเกษตร soft power งานฝีมือส่งตรงถึงมือผู้บริโภคและต่างประเทศ เพิ่มความสะดวกในการเข้าถึงสวัสดิการแห่งรัฐด้วยการยืนยันตัวตนที่มีฐานข้อมูลจากเป๋าตังในครั้งนี้แล้ว เป็นเครื่องมือกระจายสิทธิต่อเฉพาะตัวบุคคล
ทีมเศรษฐกิจพรรคกล้า ยังกล่าวอีกว่า ที่สำคัญต้องเปิดเผยและทำให้ผู้ประกอบการเข้าถึงข้อมูล โดยเฉพาะข้อมูลของภาครัฐที่เข้าถึงได้น้อยมาก รองลงมาคือข้อมูลภาคเอกชน และข้อมูลสถาบันและงานวิจัย รวมทั้งแก้ไขกฎระเบียบที่ยุ่งยากในการดึงข้อมูล และมีการอับเดทอย่างต่อเนื่อง
นอกจากนี้รัฐบาลส่งเสริมการลดค่า GP หรือ Gross Profit คือ ค่าคอมมิชชั่นที่ร้านอาหารต้องจ่ายให้กับแอพสั่งอาหาร และนับเป็นค่าดำเนินการที่ทางแพลตฟอร์มเรียกเก็บ ด้วยการส่งเสริม Platform คนไทย ทำให้ผู้ประกอบการได้รับเงินเร็ว รัฐบาลสนับสนุนเงินทุนแก่ผู้ประกอบการ เพื่อลดค่า GP ที่ประชาชนต้องเสีย จะกระตุ้นให้ประชาชนใช้บริการมากขึ้น
ส่วนปัญหาเรื่องการใช้เทคโนโลยี เนื่องจากผู้สูงอายุทำไม่เป็น ต้องไปตู้เอทีเอ็มของธนาคาร หากเราพัฒนาระบบกระเป๋าตัง มาเป็นแอพที่ใช้งานประจำวัน จัดถ่ายทอดองค์ความรู้เรื่องเทคโนโลยีเพื่อให้ผู้ใช้ใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ