“อธิบดีกรมควบคุมโรค” ระบุ กรณีโควิดหลุด

Highlight, สังคม
7 ธันวาคม 2020

“อธิบดีกรมควบคุมโรค” ระบุ กรณีโควิดหลุดจากท่าขี้เหล็ก เชียงราย ,เชียงใหม่ ,กทม.ฯลฯ คุมสถานการณ์ได้ดี ยันยังเที่ยวได้เหมือนเดิม

เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ พลเอกณัฐพล นาคพาณิชย์ กล่าวภายหลังการประชุมหารือกับกระทรวงต่างประเทศ ถึงมาตรการผ่อนปรนคนเข้าประเทศ ว่าวันนี้มีการประชุมเพื่อติดตามสถานการณ์ติดเชื้อสำหรับคนที่เดินทางกลับมาจาก อ.แม่สาย จ.เชียงราย ขณะเดียวกันยังมีการพิจารณาเรื่องการผ่อนคลายมาตรการการออกวีซ่าของกระทรวงการต่างประเทศ เพื่อให้การเข้ามาในประเทศของคนไทยและต่างชาติ เป็นไปด้วยความสะดวกมากยิ่งขึ้น

ขณะที่ อธิบดีกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ กล่าวว่าตัวเลขของผู้ป่วยที่รายงานในขณะนี้ส่วนใหญ่คือผู้ที่เดินทางมาจากต่างประเทศ และส่วนใหญ่คือผู้ที่เข้าสู่ระบบกักกัน ส่วนกรณีที่มีการติดเชื้อจากท่าขี้เหล็กประเทศเมียนมาร์นั้น ในกลุ่มนี้ผมว่ามีลักษณะการลักลอบ เข้ามาที่อำเภอแม่สาย ฉะนั้นไม่เดินทางไปเที่ยวหรือกลับภูมิลำเนา ขณะนี้มีที่จังหวัดเชียงใหม่ พิจิตร ราชบุรี กรุงเทพฯ สิงห์บุรี เป็นต้น เมื่อตรวจพบว่ามีอาการป่วย ก็จะมีการดำเนินการสอบสวนโรคต่อไป โดยจะมีการกักตัวสำหรับผู้ที่มีความเสี่ยงสูง และใกล้ชิดที่มีความเสี่ยงต่ำด้วยเช่นกัน

ซึ่งตามรายงานขณะนี้มีผู้ติดเชื้อจากท่าขี้เหล็กทั้งหมด 32 ราย แบ่งเป็นจังหวัดเชียงราย 20 ราย เชียงใหม่ 5 ราย และจังหวัดอื่นๆละ 1 ราย และจะเห็นได้ว่าในระยะหลัง ผู้ป่วยในจำนวน 32 รายนี้ จะเป็นผู้ป่วยที่เข้ามาอย่างถูกกฎหมายและถูกตรวจจนเจอเชื้อ ทำให้ไม่สามารถแพร่กระจายเชื้อออกไปได้ และในจำนวนนี้มีเพียง 2 ราย ที่มีการติดเชื้อในประเทศ คือที่จังหวัดเชียงใหม่ และสิงห์บุรี ที่เกิดจากการสัมผัสใกล้ชิดกับผู้ติดเชื้อ

พร้อมย้ำว่าในจังหวัดเชียงรายขณะนี้สามารถควบคุมสถานการณ์ได้ มีมาตรการเข้มข้นขึ้นเรื่อยๆ ส่วนจังหวัดเชียงใหม่ ไม่พบผู้ติดเชื้อจากท่าขี้เหล็กมาหลายวัน ถือว่าเป็น สถานการณ์อยู่ภายใต้การควบคุม นอกจากนั้นทั้งกรุงเทพฯ พิจิตร พะเยา สิงห์บุรี ราชบุรี ไม่พบผู้ป่วยเพิ่มเติม ก็ถือว่าจากกรณีท่าขี้เหล็กทุกจังหวัดสามารถควบคุมสถานการณ์ ได้เป็นอย่างดี แต่จะต้องเน้นย้ำให้ประชาชนให้ความร่วมมือรักษามาตรการป้องกันการแพร่ระบาด อย่างเข้มงวด และหากพบเจอบุคคล และที่มาจาก ท่าขี้เหล็กหรือประเทศเมียนมาร์ โดยไม่ผ่านการกักตัว ให้แจ้งเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงทันที เพื่อที่จะได้ไปตรวจสอบ ช่วยกันให้ประเทศปลอดภัย

ทั้งนี้ยังกล่าวถึงการเผยแพร่ข่าวปลอมทาง Social Media ที่ระบุว่าห้ามไปจังหวัดต่างๆในประเทศไทย ย้ำว่าไม่เป็นความจริง กรุณาอย่าแชร์ต่อ ขอให้ฟังข่าวสาร ที่แม่นยำและถูกต้องจากกระทรวงสาธารณสุขและศบค. ที่ขณะนี้พลเอกประยุทธ์จันทร์โอชานายกรัฐมนตรีและ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม มีคำสั่งให้แถลงข่าวทุกวัน ในเวลา 11:30 น พร้อมย้ำว่าจังหวัดที่กล่าวมานั้น ปลอดภัยทั้งหมดสามารถเดินทางไปได้

ด้าน รองอธิบดีกรมการกงสุลกระทรวงการต่างประเทศ นายจาตุรนต์ ไชยะคำ กล่าวว่า ตั้งแต่เดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ได้มีการผ่อนคลายให้ชาวต่างชาติเข้ามาในประเทศไทยเป็นระยะๆ โดยช่วงแรกเป็นนักธุรกิจ ครอบครัวคนไทย และเป็นผู้ที่มารักษาพยาบาล  และตั้งแต่ 1 ต.ค. ที่ผ่านมา เราได้ผ่อนคลายให้ผู้ที่ประสงค์จะอยู่ในระยะสั้น และในระยะยาวเข้ามา ซึ่งที่ผ่านมาได้ออก COE หรือ หนังสือรับรองสถานภาพการพำนัก ให้เข้าประเทศจนถึงเมื่อวานนี้ (6 ธ.ค.63) เฉพาะกรณีผ่อนคลาย ประมาณกว่า 6,700 รายแล้ว  สำหรับวันนี้เป็นนโยบายของนายกรัฐมนตรี ที่สั่งการให้เร่งดำเนินการให้ชาวต่างชาติเข้ามาเพิ่มเติม ซึ่งทางกระทรวงฯ ได้พิจารณาแล้ว จึงเห็นชอบให้นำเสนอที่ประชุมในวันนี้ เพื่อเสนอให้นายกรัฐมนตรีเห็นชอบเพิ่มเติม คือ กรณีผู้ที่เข้ามาเพื่อการท่องเที่ยว เดิมคือการเข้ามาโดยไม่ต้องตรวจลงตรา 30 วัน โดยมีอยู่ 56 ประเทศ ที่ได้เสนอวันนี้ไป ได้ให้อนุญาตเข้ามา  อีกข้อหนึ่งคือประเทศที่มีความตกลงยกเว้นการตกลงตรา ซึ่งประเทศที่จะได้รับประโยชน์อีกประเทศหนึ่งคือ ประเทศรัสเซีย ที่จะเข้ามาได้ 30 วัน

ทั้งนี้นายจาตุรนต์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ทั้งกลุ่มที่ไม่ต้องตรวจลงตรา และกลุ่มยกเว้นการตรวจลงตรา 30 วัน ในวันนี้ที่ประชุมเห็นชอบว่า นอกจาก 30 วันแล้ว ซึ่งจะต่อได้อีก 30 วัน จะมีการเสนอให้มีการยกเว้นในการกักตัวก่อน 14 วัน เหตุผลที่เสนอคือนอกจากต้องการกระตุ้นเศรษฐกิจแล้ว เรายังมั่นใจว่ามาตรการสาธารณสุขของเรา สามารถกักกันตัวได้ แล้วควบคุมไม่ให้มีการแพร่ระบาด  ปัจจุบันมีโรงแรมสำหรับนักท่องเที่ยวจากต่างชาติ 15,000 โรงแรม ในเขต กทม. และที่ภูเก็ตมีอีกกว่า 2,000 ห้อง ฉะนั้นจึงมีจำนวนเพียงพอต่อจำนวนนักท่องเที่ยวที่จะเดินทางเข้ามาได้ถึงวันละ 1,000 คน

ส่วนอีกเหตุผลนึง ถึงจะไม่มีวีซ่าแล้ว ตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ผู้ที่จะเดินทางเข้ามาทั้งหมดก็ต้องมีมาตรการสาธารณสุขที่ควบคุมอยู่ มีการตรวจโควิด-19 ก่อนเข้ามา และต้องเข้ามากักตัว ต้องมีการขอยื่นรับเอกสาร COE ซึ่งปัจจุบันกระทรวงการต่างประเทศ ได้มีระบบออนไลน์ เพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกให้กับชาวต่างชาติให้ดำเนินการต่างๆ ได้ง่ายขึ้น ทั้งหมดจะเป็นที่จะดำเนินการตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป

 

 

บทความที่เกี่ยวข้อง