นายสาธิต ปิตุเตชะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึงกรณีการป้องกันการแพร่ระบาดโควิด-19 จากการชุมนุมของกลุ่มนักศึกษาที่ใช้ชื่อว่า “กลุ่มเยาวชนปลดแอก” ว่า กรณีมีการชุมนุม ที่มีคนมารวมกันเป็นจำนวนมาก หลักการสำคัญ 3 เรื่อง คือ การเว้นระยะห่าง การใส่หน้ากากอนามัย และมีการคัดกรอง ทำความสะอาดมือเป็นประจำ ซึ่งการป้องกันดูแลควบคุมโรคโควิด-19นั้นมีความสบายใจได้ระดับหนึ่ง เพราะตัวเลขเป็นศูนย์ แต่หากมีการป้องกันก็จะต้องทำ3มาตรการหลักนี้ เพื่อป้องกันหากมีกรณีผู้ติดเชื้อแล้วไม่แสดงอาการหลงเหลืออยู่ก็จะสามารถต้องป้องกัน จึงต้องเน้นย้ำใน3มาตรการดังกล่าว และฝากไปถึงคนไทยทั้งประเทศด้วยว่า 3หลักการนี้จะต้องดำเนินการอย่างเคร่งครัดจนกว่าจะมีวัคซีนในประเทศไทย เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรค
ทั้งนี้ รัฐมนตรีช่วยกระทรวงสาธารณสุข บอกว่าได้ประสานสั่งให้กรมการแพทย์ ที่ร่วมมือกับศูนย์นเรนทร กรุงเทพมหานคร รพ.วชิระ และรพ.กลาง ไปประจำอยู่ที่การชุมนุม เพื่อดูแลความปลอดภัยในด้านสุขภาพและการแพทย์ฉุกเฉินในขณะที่มีการชุมนุม โดยได้สั่งให้ดูแลเต็มที่จนกว่าจะยุติการชุมนุม พร้อมยอมรับว่า การชุมนุมเมื่อวานนี้ มีความกังวลใจอยู่ แต่ก็ต้องยืนหลักการ3ข้อ หากทำตามหลักการดังกล่าวก็สามารถมาชุมนุมแสดงความคิดเห็นได้ แต่ก็ต้องอยู่ภายใต้กรอบของกฎหมาย และหากมีการชุมนุมเรียกร้องในอนาคตอีก ทางทีมสาธารณสุข ก็จะส่งเจ้าหน้าที่เข้ามาดูแล เช่นเดิม เพราะเป็นการทำงานร่วมกันกับ กทม.