อนุทิน ยืนยันสถานการณ์โควิด-19 ยังควบคุมได้ ไม่ใช่การระบาดรอบ 2 ประณามคนหนีเข้าเมืองไม่แสดงตัว ทำคนอื่นเดือดร้อน ขอสำนึกให้ข้อมูลเจ้าหน้าที่ เพื่อประโยชน์ส่วนรวม ขอประชาชนท่องเที่ยวปกติ กระตุ้นเศรษฐกิจช่วงสิ้นปี แต่ต้องป้องกันตัวเอง
นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขกล่าวถึงความคืบหน้าการสืบสวนโรคโควิด-19 หลังมีหญิงไทยลักลอบเข้าไทยผ่านช่องทางธรรมชาติ จ.เชียงราย และตรวจพบเชื้อโควิด ที่จ.เชียงใหม่ ว่า ขณะนี้ผู้ติดเชื้อทุกคนรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลแล้ว ซึ่งคนที่เดินทางกลับเข้าประเทศส่วนใหญ่รู้ว่าตัวเองป่วยแต่ไม่แจ้งข้อมูลหรือแสดงตนกับจังหวัด และกักตัวตามมาตราการกระทรวงสาธารณสุข ถือว่าไม่มีความรับผิดชอบต่อสังคม สร้างความเสียหายให้กับประเทศ และให้ผู้อื่นมาตามรับผิดชอบ นอกจากนี้ยังไม่ทราบว่าจะดำเนินคดีที่เข้าข่ายความผิดกฎหมายใดบ้าง แต่ทางสาธารณสุขจะรับผิดชอบในส่วนที่เกี่ยวข้องในการสืบสวนโรค และให้ความรู้ความเข้าใจกับประชาชนอย่างถูกต้อง พร้อมประสานไปยังหน่วยงานความมั่นคงและฝ่ายปกครองเพื่อปิดช่องทางการลักลอบต่างๆ ซึ่งทุกฝ่ายจะต้องร่วมกันรับผิดชอบ รวมไปถึงเจ้าหน้าที่อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) ที่ต้องร่วมกันต้องสอดส่องว่ามีคนแปลกหน้าเข้ามาหรือไม่
นายอนุทิน ยังย้ำว่า ยังสามารถควบคุมสถานการณ์ได้ และไม่ใช่การระบาดรอบ 2 หรือล็อกดาวจังหวัด ซึ่งมีการควบคุมและติดตามสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง พร้อมขอให้ผู้ที่ลักลอบเข้าประเทศจากอำเภอท่าขี้เหล็ก ประเทศพม่า ออกมาแสดงตนที่โรงพยาบาลและให้ข้อมูล เพราะทุกอย่างเกิดขึ้นแล้ว จึงต้องร่วมกันไม่ให้การแพร่ระบาดในวงกว้างมากกว่านี้ ตนไม่ได้มีเจตนาดำเนินคดีกับผู้ลับลอบเข้าเมือง เพราะหากมาแสดงตนก็ถือว่าทำประโยชน์คุณงามความดีให้กับประเทศ
สำหรับบุคลากรทางการแพทย์ ยังมีความพร้อม และกรมควมคุมโรคได้ไปตั้งศูนย์ปฎิบัติการที่ จ.เชียงรายและเชียงใหม่ เพื่อเฝ้าระวังสถานการณ์ และเตรียมความพร้อมในการรักษาคนที่โชคไม่ดี ทั้งนี้ยอมรับว่าขณะนี้ยังไม่สามารถคลายล็อกได้ เนื่องจากเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้น แต่ไม่เหมือนกับเหตุการณ์สนามมวย เพราะผู้ที่อยู่แนวชายแดนไม่ยินยอมแสดงตัวหรือให้ข้อมูล จึงขอให้ร่วมประณามการกระทำเช่นนี้
นายอนุทิน ยังขอให้กำลังใจบุคลากรทางการแพทย์และผู้ประกอบการที่หวังจะฟื้นตัวในช่วงสิ้นปี พร้อมขอให้ทุกคนไปเที่ยวกันตามปกติในช่วงเดือนสุดท้ายของปี แต่ต้องรักษามาตรการของกระทรวงสาธารณสุข สวมใส่หน้ากากอนามัย ล้างมือเป็นประจำ ขออย่าสูญเสียกำลังใจ กระทรวงสาธารณสุขดูแลอย่างเต็มที่ ยืนยันว่าจะไม่ให้มีการลักลอบเข้าประเทศอีก