“หญิงหน่อย” เสนอ บันได 3 ขั้น ลดแรงดันประเทศ สร้างพื้นที่ปลอดภัย-แก้ไข รธน.-คืนอำนาจให้ ปชช.

Highlight, การเมือง
13 พฤศจิกายน 2020

ประธานก่อตั้งสถาบันสร้างไทย คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ กล่าวถึงข้อเสนอเพื่อนำประเทศไปสู่การเปลี่ยนแปลงในสถานกาณ์ปัจจุบันว่า ตลอดระยะเวลาที่ทำงานการเมืองมา วิกฤติการเมืองในวันนี้ถือว่าหนักมาก เพราะไม่ใช่วิกฤติเฉพาะคนที่เห็นต่างทางฝ่ายการเมืองเท่านั้น แต่มันคือความเห็นต่างระหว่างช่วงวัยด้วย ซึ่งการแก้ปัญหาจำเป็นต้องใช้สติ และความรอบคอบ ที่สำคัญตลอดระยะเวลาที่ผ่านมามีการชุมนุมหลายครั้ง แต่จะเห็นว่าผู้มีอำนาจ หรือตัวนายกรัฐมนตรี พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ไม่ได้รับฟังข้อเสนอเลย หรืออาจจะฟังแต่ไม่มีการนำมาแก้ไข สิ่งที่ห่วงก็คือในวันนี้ภาวะของสังคม และเศรษฐกิจไทยตกต่ำลง หากเกิดการใช้กำลังหรือรัฐประหารเพื่อแก้ไขปัญหา ส่วนตัวมองว่าจะเกิดวิกฤติขึ้นหนักกว่านี้  วันนี้ตนจึงอยากเสนอทางออกให้กับประเทศหรือบันได 3 ขั้นประกอบด้วย

บันไดขั้นที่ 1 ตั้ง “คณะกรรมการเพื่อการแสวงหาทางออกประเทศไทย” โดยคณะกรรมการฯ ชุดนี้ ต้องตั้งโดยมีกฎหมายรองรับ มีการกำหนดช่วงเวลาที่ชัดเจน เช่น ต้องจบภายใน 3 -5 เดือน มีองค์ประกอบและมีส่วนร่วมที่หลากหลาย ที่มีความเป็นกลางอย่างแท้จริงและต้องมีผู้เห็นต่าง โดยเฉพาะนักเรียน นิสิตนักศึกษาร่วมนั่งเป็นกรรมการ คณะกรรมการฯ ชุดนี้ ต้องอาศัยกลไก “กระบวนการยุติธรรมในช่วงเปลี่ยน” เป็นแนวทางในการดำเนินงาน นั่นคือ เป็นเวทีและพื้นที่ปลอดภัยในการพูดคุย ต้อง “ยุติการดำเนินคดี” ไว้ก่อน และในระหว่างการพูดคุยต้องไม่มีการดำเนินคดีไม่ว่าทางใดๆ ต่อผู้มีความเห็นต่างทางการเมือง ปล่อยตัวผู้ชุมนุม ยกเลิกการตั้งข้อหาเพื่อกลั่นแกล้ง ทั้งหมดนี้เพื่อสร้างความเชื่อมั่นและไว้วางใจต่อกัน หลังจากนั้น จึงประมวลมติความเห็นจากการพูดคุยของคณะกรรมการฯ นำเสนอสู่รัฐสภา และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อนำข้อเสนอที่เห็นพ้องไปสู่การปฏิบัติจริง หากหน่วยงานไม่นำไปปฏิบัติถือเป็นความผิดตามกฏหมาย

บันไดขั้นที่สอง ต้องมีการแก้ไขรัฐธรรมนูญเป็นการเร่งด่วน นำไปสู่ “รัฐธรรมนูญฉบับประชาชน” ให้เป็นไปตามที่เคยประเมินกันไว้ คือถึงที่สุดแล้ว รธน.60 คือระเบิดเวลาที่นำพาประเทศมาสู่ทางตันในวันนี้ โดยเฉพาะกลไก 250 สว. ที่ทำให้การสืบทอดอำนาจของ พลเอกประยุทธ์ และเครือข่าย ดำเนินต่อเนื่องจนถึงปัจจุบัน // จนถึงวันนี้ ยังไม่เห็นความจริงใจของ พลเอกประยุทธ์ และสมาชิกวุฒิสภา ที่จะยอมรับว่าตัวเองเป็นใจกลางของปัญหาบ้านเมือง และเดินหน้าแก้ไข รธน.60 และในแง่นี้ รัฐสภาจึงจำเป็นต้องเร่งผ่านร่างแก้ไข รธน. ทั้งร่างที่เสนอโดยพรรคฝ่ายค้าน พรรครัฐบาล และร่างของภาคประชาชนที่ผ่าน ILaw มาพิจารณาให้แล้วเสร็จ ทั้ง 3 วาระภายในต้นเดือนธันวาคม // เร่งให้มีการเลือก ส.ส.ร. เพื่อให้เป็นตัวแทนประชาชน ไปร่าง “รัฐธรรมนูญฉบับประชาชน” ให้แล้วเสร็จภายใน 8 เดือน // ประเด็นการแก้ไข รธน. ขอเน้นย้ำให้ตัดอำนาจ ส.ว. ไม่ให้มีสิทธิ์ในการเลือกนายกรัฐมนตรีอีกต่อไป

บันไดขั้นที่สาม นายกรัฐมนตรี พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ต้องลาออกหลังสภาผ่านร่างแก้ไข รธน. ในต้นเดือนธันวาคม เพราะในวันนี้ นายกรัฐมนตรี ต้องยอมรับว่าตัวเองคือใจกลางของปัญหาบ้านเมือง จำเป็นต้องลาออก เพื่อเปิดทางให้สภาผู้แทนราษฎรได้เลือกนายกรัฐมนตรีคนใหม่ โดยมีรัฐบาลใหม่ ทำหน้าที่สนับสนุนให้เกิด “รัฐธรรมนูญฉบับประชาชน” ให้แล้วเสร็จภายใน 8 เดือน ต่อจากนั้น ต้องเร่งคืนอำนาจให้ประชาชน “เลือกตั้งใหม่” ไม่เกินปลายปี 2564 ภายใต้ “รัฐธรรมนูญฉบับประชาชน” ที่ไม่มีกลไกอันบิดเบี้ยว คอยบิดเบือนมติของประชาชน // เพราะ รธน.ใหม่ จะนำไปสู่โอกาสในการออกแบบประเทศไทย ปลดล็อกคนไทยจากการสืบทอดอำนาจของเผด็จการทหารที่ดำเนินมาต่อเนื่องยาวนาน

คุณหญิงสุดารัตน์ ยังวิงวอนขอร้องว่า บ้านเมืองเราเดินมาถึงขณะนี้ด้วยความขัดแย้งมา 10 กว่าปี รวมถึงวิกฤตเศรษฐกิจที่เกิดขึ้น เปราะบางอย่างมาก เรารับไม่ได้ต่อการที่จะใช้อำนาจ ใช้กำลัง หรือแม้จะจบด้วยรัฐประหาร ขอทุกฝ่ายใช้สติ ลดทิฏฐิ หาทางออกที่เป็นธรรมร่วมกัน

ส่วนจะให้นายกฯลาออก แล้วเลือกจากแคนดิเดตที่มีหรือไม่ คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าวว่า ก็มีขั้นตอน 3 ขั้นตอน ตามที่ตนเองเสนอไป และเมื่อผ่านวาระ 3 แล้ว ถ้านายกฯจะเสียสละลาออก ก็ให้ลาออกตอนนั้น เพราะหัวใจสำคัญคืออำนาจ ส.ว. ที่ทั้งประเทศและโลกไม่ยอมรับ

ส่วนตนเอง ยังมีชื่ออยู่ในแคนดิเดตนายกฯหรือไม่ คุณหญิงสุดารัตน์ ยอมรับว่า ก็ยังมีอยู่ แต่ไม่ได้หมายความว่าจะต้องไปยกตัวเองหรืออย่างไร แต่พูดในระบบ สิ่งที่คิดว่า ทุกฝ่ายจะพอยอมรับได้ เช่น การให้พักการดำเนินคดีกับผู้เห็นต่าง เปิดให้เขาเข้ามาสู่เวทีพูดคุยที่ปลอดภัย ทั้งนี้ เรามีคณะกรรมการลักษณะแบบนี้หลายชุด แต่ไม่เคยมีกฎหมายรองรับ มีเหมือนอยู่บนหิ้ง

 

 

บทความที่เกี่ยวข้อง