“โรม” ตั้งกระทู้ถามหาผู้สั่งการสลายการชุมนุมม็อบนักศึกษา
“โรม” ตั้งกระทู้ถามหาผู้สั่งการสลายการชุมนุมม็อบนักศึกษา
“โรม” ตั้งกระทู้ถามหาผู้สั่งการสลายการชุมนุมม็อบนักศึกษา ชี้เจ้าหน้าที่รัฐสองมาตรฐานอำนวยความสะดวกม็อบเสื้อเหลือง ด้าน “ชัยชาญ” ยืนยันทำตามกฎหมายไม่เลือกปฏิบัติ
นายรังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ตั้งกระทู้ถามสดด้วยวาจานายกรัฐมนตรี กรณีการสลายการชุมนุมกลุ่มราษฏรของรัฐบาล ทั้งที่การชุมนุมมีเวลายุติที่ชัดเจน และเป็นการชุมนุมสิทธิที่สงบ ปราศจากอาวุธ ก็เป็นสิทธิตามรัฐธรรมนูญ ไม่มีเหตุให้สลายการชุมนุมแต่อย่างใด รวมไปถึงการตั้งข้อหาดำเนินคดีกับผู้ชุมนุมด้วยมาตรา 116 ฐานยุยงปลุกปั่น จึงถามว่าการตัดสินใจสลายการชุมนุมใครเป็นผู้ตัดสินใจ มีเกณฑ์อะไรในการตัดสินใจ การสลายการชุมนุมที่เกิดขึ้นแต่ละครั้งได้ปรากฏข้อเท็จจริงใดที่เข้าหลักเกณฑ์นำไปสู่การสลายการชุมนุมบ้าง และเมื่อมีการสลายการชุมนุมที่เกินกว่าเหตุจะมีมาตรการรับผิดชอบอย่างไร รวมถึงการดำเนินคดีเหตุใดจึงมีการขอฝากขัง มีการดำเนินคดีด้วยมาตรา 116 และใช้หมายจับที่สิ้นสุดไปแล้ว
พลเอกชัยชาญ ช้างมงคล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหมได้รับมอบหมายจากนายกรัฐมนตรีให้มาตอบกระทู้แทน ชี้แจงว่า เหตุการณ์วันที่ 13 ตุลาคม บริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ซึ่งจะมีขบวนเสด็จในช่วงเวลาประมาณ 15:00 น. เจ้าหน้าที่ได้เข้าไปขอเจรจาเปิดพื้นที่เพื่อให้ขบวนเสด็จเป็นไปตามมาตรขารักความปลอดภัยและสมพระเกียรติ
ส่วนขบวนเสร็จเมื่อวันที่ 14 ตุลาคม เจ้าหน้าที่พิจารณาทั้งเส้นทางหลักและเส้นทางรอง และได้มีการวางแผนอย่างรอบคอบว่าเส้นทางดังกล่าวก็เป็นเส้นทางที่มีความเหมาะสมมากที่สุด หากมีการปรับเปลี่ยนเส้นทางก็จะมีการวางกำลังใหม่
สำหรับการชุมนุมวันที่ 16 ตุลาคม เป็นการชุมนุมที่อยู่ในประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินร้ายแรง ยืนยันการขอคืนพื้นที่ขั้นตอนปฏิบัติเป็นไปตามหลักสากล มีการเจรจามีการชี้แจงก่อนล่วงหน้า และเตรียมความพร้อมเรื่องของเจ้าหน้าที่และพยาบาลไว้ทุกขั้นตอนก่อนดำเนินการ ขณะที่เครื่องมือต่างๆที่ดำเนินการนั้นก็เป็นดำเนินการตามประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี และพระราชบัญญัติชุมนุมสาธารณะ ส่วนการตัดสินใจเป็นอำนาจของหัวหน้าผู้รับผิดชอบเหตุการณ์ เพื่อให้เหตุการณ์สงบเรียบร้อยมากที่สุด
ขณะที่นายรังสิมันต์ ไม่เชื่อว่าผู้บัญชาการตำรวจนครบาลจะเป็นผู้ตัดสินใจเพียงคนเดียว ต้องมีผู้มีอำนาจมากกว่านั้นเป็นผู้สั่งการ และการสลายการชุมนุมเมื่อวันที่ 16 ตุลาคมที่ผ่านมา ตามหลักแล้วต้องมีการขออำนาจจากศาลก่อนแต่ไม่ปรากฏหลักฐานว่ามีการขออำนาจจากศาลก่อน
ขณะเดียวกันการปฏิบัติของเจ้าหน้าที่รัฐต่อผู้ชุมนุมก็มีความไม่เท่าเทียมกัน โดยกลุ่มผู้ชุมนุมที่สวมเสื้อเหลืองกลับได้รับการอำนวยความสะดวกอย่างดีจากภาครัฐ ไม่มีการสลายการชุมนุม ไม่มีการดำเนินคดีกับผู้ชุมนุมที่สนับสนุนรัฐบาลทั้งที่มีภาพปรากฏหลักฐานชัดเจน จึงตั้งข้อสังเกตว่าเหตุใดเจ้าหน้าที่รัฐจึงปฏิบัติกับกลุ่มผู้ชุมนุมแตกต่างกันทั้งที่เป็นการชุมนุมทางการเมืองเช่นเดียวกัน
พลเอกชัยชาญ ย้ำตามประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินร้านแรง หัวหน้าผู้รับผิดชอบเป็นผู้ประเมินและวิเคราะห์สถานการณ์ว่าจะดำเนินการอย่างไรเพื่อบังคับใช้กฎหมายในการขอคืนพื้นที่ให้การชุมนุมเป็นไปด้วยความเรียบร้อยไม่ให้ขยายลุกลามบานปลายเพิ่มมากขึ้น ส่วนการอำนวยความสะดวกสำหรับประชาชนที่สวมเสื้อเหลืองนั้น เป็นการอำนวยการสำหรับประชาชนที่มาร่วมพระราชพิธี
ทำให้นายรังสิมันต์ ระบุว่า ไม่พอใจกับคำตอบ ตอบที่ไม่ให้ความชัดเจนว่าใครเป็นผู้สั่งการสลายการชุมนุม และขอให้พลเอกชัยชาญระมัดระวังในการใช้ชี้แจงเพราะอาจถูกมองว่าประชาชนที่มาร่วมพระราชพิธีเป็นกลุ่มเดียวกับการชุมนุมทางการเมือง
บทความที่เกี่ยวข้อง
