“ชวน” เผยยังไม่บรรจุระเบียบแก้ไข รธน.เข้าวาระการประชุมรัฐสภา

Highlight, การเมือง
29 ตุลาคม 2020

“ชวน” เผยยังไม่บรรจุระเบียบแก้ไข รธน.เข้าวาระการประชุมรัฐสภา เหตุ กมธ.ยังส่งเรื่องมาไม่ถึง พร้อมขอรอฟังความพรรคการเมืองว่าควรรอร่างของ iLaw หรือไม่ ชี้ คกก.สมานฉันท์ต้องมีเป้าหมายที่ชัดเจน ไม่เลื่อนลอย

นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร ในฐานะประธานรัฐสภา กล่าวถึงการบรรจุญัตติญัตติร่างรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติม เข้าสู่ที่ประชุมรัฐสภาเพื่อพิจารณาลงมติในวาระรับหลักการ ว่า ขณะนี้คณะกรรมาธิการพิจารณาร่างแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญก่อนรับหลักการ ยังส่งเรื่องมาไม่ถึงตน รวมถึงต้องการรับฟังความเห็นของพรรคการเมืองเกี่ยวกับร่างกฏหมายของภาคประชาชน(iLaw) ที่ขณะนี้กำลังรอขั้นตอนการตอบกลับของประชาชนที่ร่วมเข้าชื่อเสนอร่างกฏหมายดังกล่าวว่าจะมีการคัดค้านหรือไม่ ซึ่งจะแล้วเสร็จในวันที่ 12 พฤศจิกายน 2563 ดังนั้นจะสามารถบรรจุเข้าสู่วาระกลับประชุมได้ภายหลังจากวันที่ 12 พฤศจิกายน ซึ่งพรรคการเมืองส่วนใหญ่ก็มีความเห็นว่าควรจะรอร่างกฎหมายฉบับของภาคประชาชนก่อน แต่ก็มีบางพรรคการเมืองที่ขอนำเรื่องดังกล่าวกลับไปสอบถามหารือภายในพรรคอีกครั้ง ทั้งนี้เบื้องต้นได้มอบหมายให้ นพ.สุกิจ อัถโถปกรณ์ ที่ปรึกษาประธานสภาผู้แทนราษฎร เป็นผู้ประสานกับพรรคการเมืองต่างๆทางโทรศัพท์ และขณะนี้ยังมีเวลาที่จะรอความคิดเห็นของพรรคการเมืองต่างๆเนื่องจากสมัยประชุมยังไม่เปิด

นายชวน ยังกล่าวถึง กรณีของคณะกรรมการสมานฉันท์ ว่า ภายหลังจากการประชุมรัฐสภาสมัยวิสามัญที่ผ่านมาตนได้ประสานไปยังเลขาธิการสถาบันพระปกเกล้า เพราะเป็นหน่วยงานที่ขึ้นตรงกับรัฐสภา และภายในหน่วยงานมีผู้ทรงคุณวุฒิอยู่เป็นจำนวนมาก รวมถึงสถาบันมีหลักสูตรที่เกี่ยวข้องกับเรื่องดังกล่าวอยู่ด้วย ดังนั้นถือว่าจะเป็นประโยชน์หากให้ทางสถาบันพระปกเกล้าได้ไปเป็นผู้พิจารณากำหนดโครงสร้างของคณะกรรมการ รวมถึงให้หารือกับผู้ที่เสนอแนวคิดคณะกรรมการสมานฉันท์ว่ามีวัตถุประสงค์อย่างไร มีความคิดต้องการอะไร เพื่อที่จะทราบว่าเป้าหมายของคณะกรรมการชุดที่จะจัดตั้งขึ้นมาคืออะไร ซึ่งเรื่องนี้ก็ยังไม่มีความชัดเจน แต่ทั้งนี้ความเห็นดังกล่าวไม่ได้เป็นเอกฉันท์ในสภา แต่เป็นเพียงข้อเสนอส่วนหนึ่งของสภา และประกอบกับนายกรัฐมนตรีเห็นด้วยที่จะให้มีการดำเนินการ

ทั้งนี้เมื่อถามว่ามั่นใจหรือไม่ว่าจะไม่เป็นการซื้อเวลา นายชวน ถามกลับว่า “ซื้อเวลานี้ ใครขาย” ซึ่งตนขอไม่ไปวิพากษ์วิจารณ์ แต่ให้ทุกคนทำหน้าที่ภายใต้ความรับผิดชอบของตัวเอง ส่วนตัวบุคคลที่จะมาเป็นประธานของคณะกรรมการนั้นเป็นเรื่องที่จะต้องมาพิจารณากันภายหลัง ซึ่งคนที่มีความรอบรู้มีประสบการณ์ในเรื่องนี้มีอยู่มากพอสมควร เพียงแต่ว่าต้องไปดูว่าเป้าหมายคืออะไรและต้องการไปสู่จุดหมายสูงสุดคืออะไร ซึ่งแน่นอนว่าต้องการความปรองดองสามัคคีและแก้ไขปัญหาของบ้านเมือง แต่ไม่อยากให้เลื่อนลอยจนไม่รู้ว่าจุดหมายคืออะไร

อย่างไรก็ตาม นายชวน กล่าวว่า ในคณะกรรมการชุดนี้คิดว่าจะต้องพยายามดึงทุกฝ่ายที่มีส่วนเกี่ยวข้องเข้ามาร่วมให้ได้ ไม่ได้บอกว่าเป็นฝ่ายค้าน ฝ่ายรัฐบาล หรือวุฒิสภา แต่มองเป็นภาพรวมว่าคนทุกฝ่ายที่มีบทบาทมีความสามารถที่จะให้แนวคิดที่เป็นประโยชน์ก็จะดึงเข้ามา แต่ทั้งนี้ขอรอความชัดเจนในเรื่องรูปแบบจากสถาบันพระปกเกล้าก่อนแล้วจะนำเรียนอีกครั้ง

บทความที่เกี่ยวข้อง