“ธนาธร” นำ คณะก้าวหน้า เปิดตัว 32 ขุนพลลงชิงนายกฯ อบจ. ยึด โมเดลอนาคตใหม่หาเสียง

Highlight, การเมือง
9 ตุลาคม 2020

นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า ประกาศความพร้อมส่งว่าที่ผู้สมัครนายก อบจ. 32 จังหวัด ภายใต้แคมเปญ “เปลี่ยนประเทศไทยเริ่มได้ที่บ้านเรา”

โดยนายธนาธร กล่าวบนเวทีว่า ในระบอบ
ประชาธิปไตย ประชาชนเป็นเจ้าของประเทศร่วมกัน ประชาชนมีสิทธิเสรีภาพทางการเมือง ประชาชนเป็นเจ้าของอำนาจ จึงมีสิทธิ์ทางการเมืองในการเลือกตัวแทนไปใช้อำนาจแทนประชาชน 5 ครั้ง ครั้งแรกคือการเลือกตั้งระดับชาติในการเลือก ส.ส. ครั้งที่สอง คือ การเลือกผู้บริหารระดับจังหวัด  ครั้งที่สาม คือการเลือกสมาชิกสภา อบจ. ครั้งที่สี่ คือ การเลือกนายกฯในท้องถิ่นขั้นพื้นฐาน อาจจะเทศบาลหรือ อบต. และ ครั้งที่ห้า คือ การเลือกสมาชิกสภาเทศบาลหรือ อบต. ซึ่งการเลือกตั้งท้องถิ่นมีความสำคัญคือ การเลือกตัวแทนที่ต้องใช้งบประมาณท้องถิ่นถึง 8 แสนล้านบาท โดยการเมืองในระดับท้องถิ่นใกล้ชิดกับประชาชนมากกว่า ส.ส.ที่ทำได้เพียงตั้งกระทู้ถาม ขณะที่ท้องถิ่นสามารถบริหารงบประมาณได้ แต่การบริหารงานในระดับ อบจ. มักเกิดข้อครหาว่ามีการทุจริตคอร์รัปชั่น และนำผลประโยชน์สาธารณะไปเป็นผลประโยชน์ส่วนตัว แต่คณะก้าวหน้า ยืนยัน จะหาเสียงด้วยนโยบายทางความคิดไม่ใช่การซื้อเสียง เพราะจะเป็นจุดเริ่มต้นของระบบอุปถัมภ์ในการเมืองไทย ที่ใช้เงินทุนมหาศาล เมื่อได้อำนาจมาก็ไปขอทุนคืน จึงใช้การแข่งขันด้วยนโยบายจากกรอบความคิดเดิมของพรรคอนาคตใหม่ เปลี่ยนนโยบายระดับชาติ แปรเป็นนโยบายที่จับต้องได้ในระดับท้องถิ่น

ประธานคณะก้าวหน้า ยังได้กล่าวว่า หลักการทำงานท้องถิ่นของคณะก้าวหน้า ที่จะต้องยึดมั่นในกระบวนการประชาธิปไตยและ พร้อมร่วมผลักดันสร้างประชาธิปไตยไม่ซื้อเสียง เอาชนะด้วยนโยบายและการทำงานอย่างจริงจัง ไม่มีประวัติการค้ามนุษย์หรือค้ายาเสพติด ไม่ทุจริต ไม่เข้ามามีอำนาจเพื่อตักตวงผลประโยชน์ให้กับตนเองและพวกพ้อง พร้อมร่วมกันผลักดันให้เกิดการปฏิรูปรัฐราชการ ยุติการรวมศูนย์ที่ส่วนกลาง  โดยคณะก้าวหน้าพร้อมส่งว่าผู้สมัคร 32 จังหวัด ลงแข่งขันประกอบด้วย

จังหวัดฉะเชิงเทรา – นายยศสิงห์ เหลี่ยมเลิศ จังหวัดพะเยา – นายชัยประพันธ์ สิงห์ชัย
จังหวัดนครราชสีมา – นายสาธิต ปิติวรา
จังหวัดนครสวรรค์ – นายศรัญ ฤกษ์อัตกร
จังหวัดสุรินทร์ – นายมานพ แสงดำ
จังหวัดนครพนม – นายณพจน์ศกร ทรัพยสิทธิ์
จังหวัดแพร่ – นายสุภวัฒน์ ศุภศิริ
จังหวัดร้อยเอ็ด – นายสถาพร ว่องสัธนพงษ์
จังหวัดสิงห์บุรี – นายสุรชัย บุญลือ
จังหวัดลพบุรี – นายฤทธิ์ พัวพันธ์
จังหวัดสมุทรสงคราม – นายอานุภาพ ลิขิตอำนวยชัย
จังหวัดสระบุรี – นายวิทูลย์ แก้วสุวรรณ
จังหวัดสมุทรสาคร – นายอวยชัย จาตุรพันธ์
จังหวัดสุราษฏ์ธานี – นายพงษ์ศักดิ์ โพธิครูประเสริฐ
จังหวัดอุบลราชธานี – นายเชษฐา ไชยสัตย์
จังหวัดหนองคาย – นายกฤศภณ หล้าวงศา
จังหวัดหนองบัวลำภู – นายสมเกียรติ เชษฐสุมนจังหวัดอยุธยา – นายวัสพงศ์ วิทูรเมธา
จังหวัดอ่างทอง – นายโยธิน เปาอินทร์
จังหวัดอุดรธานี – นายฐานวัฒน์ ธนาธัญญพิชญ์
จังหวัดอุตรดิตถ์ – นายปัณณวัฒน์ นาคมูล
จังหวัดราชบุรี – นางภรมน นรการกุมพล
จังหวัดตาก – นายคริษฐ์ ปานเนียม
จังหวัดนครปฐม – นายชัชวาล นันทะสาร
จังหวัดนนทบุรี – นายไพบูลย์ กิจวรวุฒิ
จังหวัดระยอง – นางสว่างจิตต์ เลาหะโรจนพันธ์
จังหวัดบึงกาฬ – นายภูมิพันธ์ บุญมาตุ่น
จังหวัดพิษณุโลก – นายณชพล พลอาสา
จังหวัดปราจีนบุรี – นางกฤษณ์กมล แพงศรี
จังหวัดพังงา – นายสุทธิโชค ทองชุมนุม
จังหวัดสกลนคร – นายณรงค์เดช อุฬารกุล
จังหวัดมุกดาหาร – นายสุพจน์ สุอริยพงษ์

บทความที่เกี่ยวข้อง