“วิษณุ” มอง ตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญศึกษาก่อนรับหลักการก่อนการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ไม่ถ่วงเวลา เหตุสภาฯปิดสมัยประชุม ลั่นกรรมาธิการ 45 คน ไร้เงาคนนอก ชี้ หากร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่เสร็จต้องรอกฎหมายหมายประชามาติ มีนาคม ยันรัฐบาลไม่ส่งซิก

Highlight, การเมือง
1 ตุลาคม 2020

นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณี ส.ว.บางส่วนยืนยันไม่ขอรับร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ รวมถึงให้ทำประชามติก่อนตั้ง ส.ส.ร. ว่า เป็นเพียงความเห็น ส่วนจะยกคำพิพากษาก่อนหน้านี้ที่ระบุ ว่า อำนาจรัฐธรรมนูญเมื่อมาจากประชาชนก็ต้องกลับไปถามประชาชน จะกลับมาใช้กับสถานการณ์ปัจจุบันได้หรือไม่ก็แล้วแต่ ตนไม่ขอออกความเห็น ซึ่งทุกอย่างต้องไปคุยกันในกรรมาธิการที่ตั้งไว้ รัฐบาลหรือตนไปออกความเห็นไม่ได้ ซึ่งร่างดังกล่าวเป็นร่างของพรรคร่วมรัฐบาลหนึ่งร่างและฝ่ายค้านหนึ่งร่าง มีหลักการคล้ายคลึงกัน และร่างของฝ่ายค้านแก้ไขรายมาตราอีก 4 ร่าง และร่างของไอลอว์อีกหนึ่งร่างซึ่งอยู่ระหว่างการตรวจสอบ โดยตนได้ยินว่าจะนำบทสรุปและข้อสังเกตของคณะกรรมการชุดนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค ประธานคณะกรรมการพิจารณา ศึกษาปัญหา หลักเกณฑ์ แนวทางการแก้ไขรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2560 โดยจะต้องใช้เวลา 30 วันนี้ให้เป็นประโยชน์ ซึ่ง 30 วันนี้ ไม่ใช่การถ่วงเวลาเพราะถึงจะรับหลักการวาระ 1 ในครั้งที่ผ่านมาก็ยังเดินหน้าอะไรต่อไม่ได้ อย่างมากทำได้เพียงตั้งคณะกรรมาธิการมาพิจารณาวาระ 2 และ 3 และหลังจากนั้นยังต้องทิ้งระยะเวลาอีกกว่าเดือน เนื่องจากยังทำประชามติไม่ได้ เพราะหากนับปฏิทินกว่าที่กฎหมายประชามติจะผ่านอาจจะช่วงปลายมีนาคม 2564 ซึ่งรัฐธรรมนูญหากทำแล้วเสร็จเดือนธันวาคม ก็ต้องทิ้งเอาไว้จนกว่ากฎหมายประชามติจะเรียบร้อย แต่หากสภาไม่ปิดแล้วตั้งคณะกรรมธิการ นี่คือการถ่วงเวลา และเมื่อจะขอเปิดสมัยประชุมสภาวิสามัญทำได้โดยรัฐบาลขอเปิดหรือเข้าชื่อเพื่อขอเปิดประชุม

ทั้งนี้การตั้งคณะกรรมาธิการหลังรับหลักกสารในวาระที่1 คนนอก คณะรัฐมนตรี รวมไปถึงร่างของไอลอว์ที่ไอลอว์เองไม่สามารถเข้าไปเป็นกรรมาธิการได้ ทำได้เพียงเข้ามาชี้แจงได้เท่านั้น ไม่สามารถเป็นคณะกรรมาธิการได้ ซึ่งคณะกรรมธิการมีทั้งหมด 45 คน โดยมาจากทั้ง 2 สภา เพื่อตรวจแก้ร่างเปิดทางให้มี ส.ส.ร. ซึ่งมีกติกาอย่างไรก็เดินไปตามนั้น

ส่วนที่มีกระแสข่าวว่ารัฐบาลส่งซิกแก้ไขรัฐธรรมนูญ ตนมองว่าไม่เป็นการส่งซิกอะไรทั้งนั้น เพียงแต่มีการพูดคุยกันหลายเรื่องเป็นธรรมดาก่อนการประชุมคณะรัฐมนตรี โดยนายกรัฐมนตรีได้ปรารภว่าร่างของพรรคร่วมรัฐบาลมีรายชื่อสนับสนุนกว่า 200 รายชื่อ และเมื่อเสนอแล้วไม่สามารถกลับลำได้ ซึ่งทุกพรรคก็เห็นด้วย ส่วนจะทำความเข้าใจกับสมาชิกรัฐสภา ให้รอฟังผลการศึกษาว่าจะออกมาในทิศทางใด หากความเห็นไม่ตรงกันก็ต้องมาอธิบาย แต่ทั้งหมดจะต้องคุยในชั้นกรรมาธิการก่อนไม่เช่นนั้นจะตั้งมาหาอะไร

บทความที่เกี่ยวข้อง