นายสงคราม กิจเลิศไพโรจน์ หัวหน้าพรรคเพื่อชาติ เปิดเผยว่า การพิจารณาญัตติการแก้ไขรัฐธรรมนูญใน 4 มาตรา ตามที่พรรคร่วมฝ่ายค้านเสนอ ซึ่งทุกอยากขึ้นอยู่กับที่ประชุมสภา เชื่อว่ามีหลังการประชุมจะมีการตั้งคณะกรรมาธิการขึ้นมาเพื่อพิจารณาในการแก้ไขรัฐธรรมนูญในวาระที่ 2 และวาระที่ 3 ก่อนที่จะนำเข้ามาสู่ที่ประชุมเพื่อลงมติ
กรณีที่สมาชิกวุฒิสภา ส.ว.จะหนุนญัตติการแก้ไขรัฐธรรมนูญหรือไม่นั้น ขึ้นกับพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เพราะเป็นผู้ที่แต่งตั้งส.ว.ว่าจะมีการสั่งการอย่างไร รัฐธรรมนูญจะแก้ได้หรือไม่ได้ขึ้นกับพลเอกประยุทธ์ หากไม่ให้ผ่านก็ไม่ผ่าน ถ้าให้ผ่านก็ผ่าน เพราะเชื่อว่าส.ว.รอฟังสัญญาณจากนายกรัฐมนตรี ว่าจะเอาอย่างไรกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญ
นายสงคราม กล่าวด้วยว่า กรณีที่นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ที่ออกมาให้สัมภาษณ์ว่าการแก้ไขรัฐธรรมนูญต้องใช้เวลานานนั้น เป็นเพียงการยื้ออาจเท่านั้น เพราะการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ไม่ใช่การร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ดังนั้นการแก้ไขในส่วนของที่มาของส.ส.และตัดอำนาจของส.ว.ไม่ให้มาเกี่ยวข้องกับเลือกนายกรัฐมนตรี ควรให้เป็นหน้าที่ของส.ส.ที่เป็นตัวแทนของพี่น้องประชาชน
“สุดท้ายการแก้ไขรัฐธรรมนูญขึ้นอยู่กับการจะสำเร็จไม่สำเร็จขึ้นอยู่กับพลเอกประยุทธ์ว่ามีความจริงใจกับประชาชนมากแค่ไหน ส่วนที่นายวิษณุพยายามเตะถ่วงการแก้ไขรัฐธรรมนูญ อยากแนะนำให้นายวิษณุฟังเสียงประชาชนอย่ายึดติดกับอำนาจจนไม่เห็นหัวประชาชน”นายสงคราม กล่าว