นายอัครเดช วงศ์พิทักษ์โรจน์ ส.ส.ราชบุรี พรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะโฆษกกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2564 เปิดเผยผลการประชุมกรรมาธิการฯว่า ที่ประชุมมีมติปรับลดงบประมาณรายจังหวัด 76 จังหวัด 18 กลุ่มจังหวัด รวมเป็นงบประมาณที่ปรับลด 304 ล้านบาท จากงบประมาณทั้งสิ้น 23,000 ล้านบาท ส่วนจังหวัดใดถูกปรับลดมากที่สุดนั้น ยังไม่สามารถเปิดเผยได้ สำหรับงบประมาณของ กทม.ในโครงการก่อสร้างสะพานข้ามแม่น้ำเจ้าพระยาบริเวณอาคารรัฐสภาแห่งใหม่ มูลค่า 1,350 ล้านบาทที่มีการของบประมาณตั้งแต่ปี 2563 และแบ่งจ่ายปีละประมาณ 200 ล้านบาท แต่ไม่สามารถเบิกจ่ายเพื่อก่อสร้างได้ เพราะมีปัญหาความไม่ชัดเจนกับรัฐสภา ทำให้เมื่อมีการของบประมาณในปี 2564 เห็นว่า ยังไม่มีความชัดเจนเช่นเดียวกัน จึงได้ปรับลดงบประมาณในปีนี้ 192 ล้านบาท และให้รัฐสภากับ กทม.ไปหารือกันให้ชัดเจนว่าจะมีข้อสรุปอย่างไร
นอกจากนี้ ที่ประชุมยังมีการพิจารณางบประมาณด้านการศึกษาที่กรรมาธิการมีการตั้งข้อสังเกตว่า หลายมหาวิทยาลัยสามารถจัดหางบประมาณมาได้จำนวนมาก เหตุใดต้องจัดสรรงบประมาณจากรัฐอีก เพื่อประหยัดงบประมาณ ทั้งนี้ อนุกรรมาธิการได้ให้เหตุผลกับกรรมาธิการว่า มหาวิทยาลัยบางแห่ง ที่มาขอสนับสนุนงบ เนื่องจากต้องใช้ก่อสร้างโรงพยาบาลในสังกัดของมหาวิทยาลัย เพื่อช่วยเหลือผู้ป่วย โดยเฉพาะในช่วงการแพร่ระบาดของโควิด-19 ดังนั้น มหาวิทยาลัยต้องใช้เงินรายได้นอกงบประมาณมาช่วยเหลือประชาชน นอกจากนี้ ยังต้องใช้งบประมาณเรื่องวิจัยและการผลิตบุคลากรทางการแพทย์ที่ขาดแคลนด้วย
นายอัครเดช ยังเปิดเผยว่า ส่วนการพิจารณางบประมาณจัดซื้อเรือดำน้ำ ยอมรับว่า มีวาระที่จะเข้ากรรมาธิการชุดใหญ่ แต่เมื่อเข้าสู่วาระ จะมีการขอให้เลื่อนการพิจารณาและการลงมติออกไปก่อน โดยคาดว่า จะเป็นวันศุกร์ที่ 28 สิงหาคมนี้ สำหรับกรรมาธิการสัดส่วนพรรคประชาธิปัตย์ทั้ง 7 คน ยืนยันว่า ไม่สนับสนุนการจัดซื้อเรือดำน้ำ แต่จะโหวตสวนหรือไม่นั้น ยังไม่ได้มีการตกลงกันว่าจะมีการโหวตสวนหรือไม่ หรืออาจจะใช้วิธีการงดออกเสียง หรือไม่เข้าประชุมแทน ซึ่งเรื่องนี้ เป็นไปตามมติของพรรค