นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 หรือ ศบค. แถลงข่าวกรณีพิเศษหลังการประชุม ศบค. ชุดเล็ก หลังมีกระเเสวิพากษ์วิจารณ์กรณีทหารอียิปต์และครอบครัวคณะทูตซูดาน เข้าประเทศไทย แล้วตรวจพบติดเชื้อโควิด-19 ว่า ขออภัยที่ให้ข้อมูลที่สื่อมวลชนยังไม่ครบถ้วน เนื่องจากกรมควบคุมโรคอยู่ระหว่างลงพื้นที่และตรวจสอบข้อมูล โดยกรณีของทหารอียิปต์ มาจากเที่ยวบิน EGY 1215 และ EGY 1216 มาจากปากีสถานลงจอดที่สนามบินอู่ตะเภาเวลา 19.00 น. ของวันที่ 8 ก.ค. และเข้าพักที่โรงแรมดีวารี จ.ระยอง ที่เลือกโดยสถานทูตอียิปต์ ทุกคนเข้าพักห้องละ 2 คน ยกเว้นกัปตันที่พักคนเดียว จากนั้นวันที่ 9 ก.ค.เดินทางจากอู่ตะเภาไปยังเมืองเฉินตู ประเทศจีน และกลับมาวันที่ 10 ก.ค. ก่อนที่ผู้ติดเชื้อ 1 ใน 27 คนไปห้างแหลมทอง เวลา 11.00-14.59 น. อีก 4 คนนั่งแท็กซี่ไปห้างเซนทรัลในเวลา 14.00-18.00 น. และเดินทางกลับในวันที่ 11 ก.ค. ซึ่งลูกเรือส่วนใหญ่ไม่ใส่หน้ากากอนามัย

ทั้งนี้ ผู้ที่มีความเสี่ยงสูงจำนวน 9 คน มาจากโรงแรม 7 คน ผู้จัดการ 2 คน พนักงานขาย 1 คน และแม่บ้าน 1 คน ต้องหยุดงานเป็นเวลา 14 วัน และกักตนเองที่โรงแรมในตำบลท่าประดู่ / ส่วนกลุ่มที่สอง เป็นพนักงานขับรถรับ-ส่ง ไปโรงแรม 2 คน // สำหรับผู้ที่มีความเสี่ยงต่ำ 9 คน มาจากทีม CDCU หรือหน่วยปฏิบัติการควบคุมโรคติดต่อ และทีมตรวจคนเข้าเมืองระยอง ซึ่งทั้งหมดได้รับการตรวจสวอปและกักตัวแล้ว

โฆษก ศบค. ยังบอกด้วยว่า กรณีกลุ่มทหารอียิปต์ ไม่ใข่แขกวีไอพี แต่เข้าข่ายคำสั่ง ศบค. ฉบับ 7 (5) คือผู้ควบคุมยานพาหนะ หรือเจ้าหน้าที่ประจำยานพาหนะ ซึ่งจําเป็นต้องเดินทางเข้ามาตามภารกิจ และมีกําหนดเวลาเดินทางออกนอกราชอาณาจักรชัดเจน โดยมีการตรวจมาตั้งแต่ประเทศต้นทางแล้ว แต่ต้องขอชื่นชมทีมงานสาธารณสุขและความมั่นคงในพื้นที่ ที่ใช้ความสามารถในการเจรจากับสถานทูตฯ จนได้ตรวจทั้ง 31 คน ทั้งที่ถูกปฏิเสธในขั้นตอนแรก ซึ่งผลปรากฏว่า 30 คนมีผลเป็นลบ และอีก 1 คน ได้รับผลว่ามีเชื้อในวันที่ 12 ก.ค. ซึ่งเข้าหน้าที่ได้ขยายวงของคนที่ไปเดินห้าง และผ่านการลงทะเบียนในแอปไทยชนะ โดยติดต่อให้ไปตรวจและกักตัว รวมทั้งให้ติดต่อกลับที่ศูนย์ควบคุมโรคจังหวัดระยอง

ส่วนกรณีของเด็กหญิงอายุ 9 ปี ลูกสาวอุปทูตซูดานประเทศไทย ตรวจเชื้อในประเทศ 7 ก.ค. ไม่พบเชื้อ และเดินทางมาไทยในวันที่ 10 ก.ค. และพักที่ One X คอนโดมิเนียม ในกรุงเทพฯ โดยไม่ได้แวะที่ไหน วันที่ 10 ก.ค. เวลา 11.38 น. รถมารับไปที่โรงพยาบาล และ 12 ก.ค. ย้ายไปพักที่บ้านพักสถานทูตซูดาน ซอยสวนพลู และไม่ได้ออกไปไหนระหว่างนั้น เนื่องจากพบว่ามีเชื้อในวันที่ 10 ก.ค. พร้อมย้ำข่าวลือเกี่ยวกับลูกสาวอุปทูตไปเที่ยวห้างสรรพสินค้า ก็ไม่เป็นความจริง

สำหรับกลุ่มเสี่ยงสูง 7 ราย เป็นคนในครอบครัว 3 ราย คนขับรถ เจ้าหน้าที่สถานทูต และเจ้าหน้าที่สนามบิน 2 ราย ส่วนกลุ่มที่มีความเสี่ยงต่ำ 15 ราย คือคนที่พักในคอนโดและใช้ลิฟท์ตัวเดียวกัน

อย่างไรก็ตาม โฆษก ศบค. กล่าวยอมรับว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมด ศบค. เป็นผู้รับผิดชอบไว้เอง และพยายามทำให้ดีที่สุด ซึ่งผู้ที่เข้ามาตามเอกสาร ไม่ต้องมีผู้ควบคุมตามที่กฎหมายกำหนด เพียงแค่ให้ใช้แอปพลิเคชั่นติดตามตัวเท่านั้น เเต่ก็พบว่ามีข้อหละหลวมคือ สถานทูตไปติดต่อโรงแรมโดยตรง และแจ้งทางการทีหลัง

“ผมเสียใจที่บอกว่าเจ้าหน้าที่รัฐการ์ดตกเสียเอง เราคุยกันว่ามีอะไรต้องปรับปรุงกันบ้าง เราขออภัยในทุกเรื่องและจะปรับปรุงในจุดที่หละหลวมทุกจุด เคยคิดว่าจะลงที่สุวรรณภูมิแต่กลับไปลงที่อู่ตะเภา ก็ยังไม่มีมาตรการควบคุมไว้”

นอกจากนี้ กระทรวงการต่างประเทศ ต้องมีการทบทวนให้นักการทูตเข้าสู่การกักตัว 14 วัน และยกเลิกการบินเข้าของกองทัพอากาศอียิปต์ อีก 8 เที่ยวบิน ในวันที่ 17-20 และ 25-29 ก.ค. นี้ และชะลอการอนุญาตเข้าราชอาณาจักรแบบผ่อนคลาย เช่น กลุ่มนักการทูต และนักธุรกิจ โดยจะขอทบทวนมาตรการให้ดีก่อน ขออภัยประชาชนรวมทั้งชาวระยอง และเด็กที่ต้องปิดโรงเรียน มาตรการนี้เพิ่งออกไปวันที่ 1 ก.ค. และเหตุเกิดวันที่ 9 ก.ค. ถือเป็นความเสียใจและต้องปรับปรุงเป็นอย่างยิ่ง พร้อมยืนยันว่ากลุ่มทหารอียิปต์ไม่ได้ออกจากโรงแรมหรือมีการเที่ยวกลางคืนตามที่มีข่าวลือ ส่วนการเข้ามาในลักษณะของวีไอพี ตอนนี้ไม่น่าจะมีแล้ว

อย่างไรก็ตาม เรื่องการล็อกดาวน์ ตอนนี้มีการจำกัดการขยายวงของการระบาดด้วยการใช้แอปพลิเคชั่นไทยชนะ มีการตีกรอบและกำหนดพื้นที่ ให้หัวหน้าส่วนราชการเป็นคนกำหนดมาตรการในพื้นที่ และถ้าจัดการได้เร็วก็จะกลับมาใช้ชีวิตปกติได้เร็วขึ้น แต่จะถึงขั้นต้องปิดเมืองหรือไม่ ต้องรอระยะเวลา 14 วัน ถ้าควบคุมได้ดี ทุกคนให้ความร่วมมือก็ไม่ต้อง แต่ถ้าควบคุมไม่ได้ก็อาจจะต้องมีการปิดเมือง

ส่วนผลสรุปผู้ติดเชื้อประจำวันนี้ เพิ่มขึ้น 7 รายจากในระบบกักตัวของผู้ที่เดินทางมาจากต่างประเทศ ไม่มีผู้ติดเชื้อในประเทศ

• Facebook
• Twitter
• Line