พาณิชย์เผยส่งออก ก.ค. 63 ติดลบ 11.37% ได้ทองคำช่วยพยุง – ตลาดสหรัฐฯ โตต่อเนื่อง ส่วนนำเข้าติดลบ 26.38% เกินดุลการค้า 3,343.2 ล้านดอลล์ ย้ำจากนี้เข้าโหมดฟื้นตัวหลังผ่านจุดต่ำสุดแล้วในเดือนมิ.ย. ส่วนทั้งปีคาดติดลบ 8-9%

Highlight, สังคม
24 สิงหาคม 2020

น.ส.พิมพ์ชนก วอนขอพร ผู้อำนวยการ สำนักนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยถึงการค้าระหว่างประเทศของไทยในเดือน ก.ค. ว่า การส่งออกของไทยในเดือนก.ค. มีมูลค่า 18,819.5 ล้านดอลลาร์ ติดลบ 11.37% ขณะที่ 7 เดือนแรกของปี (ม.ค.-ก.ค.) มีมูลค่า 133,162.4 ล้านดอลลาร์ ติดลบ 7.72%

ด้านการนำเข้า ก.ค. มีมูลค่า 15,476.2 ล้านดอลลาร์ ติดลบ 26.38% ขณะที่ 7 เดือนแรก มีมูลค่า 119,118.2 ล้านดอลลาร์ ติดลบ 14.69% ส่งผลให้ดุลการค้าในเดือนก.ค. เกินดุล 3,343.2 ล้านดอลลาร์ และ 7 เดือนแรกเกินดุล 14,044.2 ล้านดอลลาร์

โดยการส่งออกในเดือนก.ค.มีการฟื้นตัวชัดเจนขึ้นหลังจากผ่านจุดต่ำสุดในช่วงเดือนมิ.ย.ที่ผ่านมา สะท้อนจากมูลค่าการส่งออกที่หดตัวน้อยลงจากเดือนก่อนหน้า และคาดว่าจะทำให้ทั้งปี การส่งออกจะติดลบไม่ถึง 2 หลัก โดยปีนี้คาดว่าการส่งออกจะติดลบเพียง 8-9% เท่านั้น หรือมีมูลค่าประมารณ 220,000 กว่าล้านดอลลาร์

“การส่งออกในเดือนก.ค. ภาพรวมพบว่า สินค้าหลายรายการอยู่ในช่วงการฟื้นตัว โดยเฉพาะทองคำกลับมาขยายตัวตามทิศทางราคาทองคำในตลาดโลก ส่งผลให้ภาพรวมการส่งออกสินค้ามีทิศทางที่ดีขึ้นจากเดือนก่อนหน้า”นางสาวพิมพ์ชนก กล่าว

สำหรับการส่งออกรายตลาด มูลค่าการส่งออกเกือบทุกตลาดหดตัวในอัตราที่น้อยลง สะท้อนถึงแนวโน้มการฟื้นตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไป หลังจากประเทศคู่ค้าหลายประเทศสามารถควบคุมสถานการณ์การแพร่ระรบาดของไวรัสโควิด-19 ได้ และมีการผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์

รวมถึงการใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ เพื่อเร่งฟื้นฟูเศรษฐกิจที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 โดยการส่งออกไปตลาดสหรัฐ ยังคงขยายตัวในระดับสูงต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 2 ที่ 17.8% ขณะที่การส่งออกไปจีนกลับมาหดตัวเล็กน้อย เนื่องจากได้รับผลกระทบจากการระบาดรอบใหม่ รวมทั้งปัญหาอุกทกภัยในแหล่งการผลิตสำคัญอย่างอู่ฮั่น

นางสาวพิมพ์ชนก กล่าวว่า สำหรับแนวโน้มการส่งออกของไทยในช่วงที่เหลือของปีนี้ แม้ภาพรวมการส่งออกยังหดตัวจากผลกระทบจากสถานการณ์โควิด-19 แต่ในตลาดสำคัญ พบว่า สินค้าไทยหลายรายการมีศักยภาพที่จะสามารถผลักดันการส่งออกของไทยให้กลับมาฟื้นตัว โดยเฉพาะสินค้าเกษตรและอาหาร ซึ่งไทยมีความสามารถในการผลิต

นอกจากนี้ยังมีความได้เปรียบในด้านความปลอดภัยของอาหารสูงเมื่อเทียบกับคู่แข่ง ทำให้สินค้าอาหารของไทยมีโอกาสขยายการส่งออกได้อีกมาก อย่างไรก็ตาม ผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ที่ต้องใช้เวลาในการฟื้นตัว การหดตัวของเศรษฐกิจโลก ปัญหาการกีดกันทางการค้าในรูปแบบใหม่ แนวโน้มการแข็งค่าของเงินบาท และราคาน้ำมันที่อยู่ในระดับต่ำ ยังเป็นปัจจัยกดดันการส่งออกในระยะต่อไป

บทความที่เกี่ยวข้อง