ธปท.ผนึกธนาคารรัฐและเอกชน ร่วมปรับโครงสร้างหนี้ลูกหนี้ที่มีเจ้าหนี้หลายราย ทั้งลดค่างวด ลดดอกเบี้ย ขยายเวลา ปรับเงื่อนไขให้สอดรับรายได้ปัจจุบัน ป้องกันหนี้เสียในอนาคต เริ่มสมัคร 1 ก.ย.นี้

Highlight, สังคม
21 สิงหาคม 2020

นายวิรไท สันติประภพ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) เปิดเผยว่า ธปท.ร่วมกับสมาคมธนาคารไทย สมาคมธนาคารนานาชาติ และสมาคมสถาบันการเงินของรัฐ เปิดตัวโครงการดีอาร์ บิส การเงินร่วมใจ ธุรกิจไทยมั่นคง เพื่อช่วยเหลือลูกหนี้ธุรกิจที่มีเจ้าหนี้สถาบันการเงินหลายรายได้ปรับโครงสร้างหนี้ให้สอดรับกับรายได้ และความสามารถชำระหนี้หลังจากนี้ไป ซึ่งเป็นการป้องกันไม่ให้เกิดหนี้เสียได้ทางหนึ่ง สามารถเข้าร่วมโครงการได้ตั้งแต่วันที่ 1 ก.ย.นี้ ผ่านธนาคารที่เป็นเจ้าหนี้

สำหรับดีอาร์ บิส จะให้กับลูกหนี้ธุรกิจทุกประเภทธุรกิจและอุตสาหกรรมวงเงินช่วงแรก 50-500 ล้านบาท มี 8,400 ราย คิดเป็น 1.2 ล้านล้านบาท ก่อนจะขยายช่วยกลุ่มที่มีวงเงินต่ำกว่า 50 ล้านบาทและเกิน 500 ล้านบาทต่อไป โดยลูกหนี้ต้องมีสถานะปกติ หรือเป็นหนี้เสียกับธนาคารบางแห่งตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.62 ยกเว้นพิสูจน์ได้ว่าได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจและสถานการณ์โควิด-19 ต้องไม่ถูกฟ้องคดี ยกเว้นเจ้าหนี้จะถอนฟ้อง ซึ่งครอบคลุมลูกหนี้ทั้งสถาบันการเงินและแบงก์รัฐ

ทั้งนี้ข้อดีของโครงการฯ คือ สามารถแก้ไขปัญหาหนี้เดิม เช่น ลดค่างวด ลดดอกเบี้ย ขยายเวลาชำระหนี้ ปรับเงื่อนไขให้เหมาะกับศักยภาพลูกหนี้ รวมทั้งสถาบันการเงินอาจร่วมกันให้สินเชื่อใหม่แก่ลูกหนี้ที่มีศักยภาพ ประวัติชำระหนี้ดี มีแผนธุรกิจชัดเจน และมีความตั้งใจทำธุรกิจ เป็นต้น

นายรณดล นุ่มนนท์ รองผู้ว่าการ ด้านเสถียรภาพสถาบันการเงิน ธปท. กล่าวว่า เจ้าหนี้รายใหญ่ของลูกหนี้รายนั้นจะต้องเป็นตัวกลาง เป็นเจ้าภาพในการรวมและเจรจาปรับปรุงโครงสร้างหนี้ แต่ถ้าการไกล่เกลี่ยไม่สามารถตกลงกันได้ จะต้องตั้งคณะกรรมการกำกับขึ้นมา 1 ชุด มีธปท.เป็นประธาน และตัวแทนธนาคารเข้าร่วม เพื่อทำหน้าที่ประสานการเจรจา มาดูแลและติดตามการปรับโครงสร้างหนี้

บทความที่เกี่ยวข้อง