“ไพบูลย์” ย้ำ พปชร. เป็นฝ่ายไปเชิญ “พลเอกประวิตร” มาเป็นหัวหน้าพรรค หวังแก้ปัญหาภายใน ยัน ทุกอย่างเป็นไปอย่างเอกภาพและอิสระ

การศึกษา, การเมือง, กีฬา, ท่องเที่ยว, บันเทิง, สังคม, อาชญากรรม
30 มิถุนายน 2020

นายไพบูลย์ นิติตะวัน รักษาการรองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ เผยถึงขั้นตอนการประชุมใหญ่สามัญ ของพรรคพลังประชารัฐในวันนี้ ว่า การประชุมใหญ่ในครั้งนี้ มีวาระของการประชุมสามัญ เพื่อรับรองการแก้ไขข้อบังคับของพรรค / พิจารณารายงานการดำเนินกิจการของพรรคในรอบปีที่ผ่านมา / การแก้ไขสัญลักษณ์พรรคฯ และเรื่องการปรับโครงสร้าง จำนวนส.ส. ส่วนเรื่องสำคัญของการประชุมในครั้งนี้ คือ การเลือกตั้งคณะกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ ที่จะเลือกตั้งหัวหน้าพรรค กรรมการบริหารพรรค

โดยการเลือกตั้งจะเป็นการลงคะแนนแบบอาหรับซึ่งให้สมาชิกทุกคนมีอิสระในการลงคะแนนโหวต ซึ่งวันนี้พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและในฐานะประธานยุทธศาสตร์พรรคจะไม่มาร่วมการประชุมในครั้งนี้ และถือว่าไม่ผิดข้อบังคับพรรคที่เดิมบุคคลที่ถูกเสนอชื่อหรือถูกเลือกจะต้องอยู่ในที่ประชุมด้วย เพราะกฎหมายนี้ได้มีการแก้ไขไปเมื่อวันที่ 6 มิถุนายน 2562 จึงไม่จำเป็นพี่พูดถูกเสนอชื่อหรือผู้ที่ถูกเลือกจะต้องอยู่ในที่ประชุม

นายไพบูลย์ เผยอีกว่า หลังจากเลือกหัวหน้าพรรค ก็จะเลือกเลขาธิการพรรค นายทะเบียนพรรค และจากนั้นจะเลือกกรรมการบริหารพรรค โดยจะเสนอแบบบัญชีรายชื่อและจะเป็นการออกเสียงในคราวเดียวกันสุด ทันทีที่ได้รับการเลือกตำแหน่งจะมีผลภายในทันที และหัวหน้าพรรคจะแต่งตั้งรองหัวหน้าพรรคไม่เกิน 9 คน ส่วนวาระการตั้งคณะกรรมการสรรหาผู้รับสมัครการเลือกตั้ง จะเลื่อนไปในการประชุมวิสามัญแทน

เมื่อถามว่า กรรมการบริหารพรรคชุดใหม่จะทำให้ความขัดแย้งในพรรคยุติไปหรือไม่ นายไพบูลย์ ระบุว่า เหตุผลที่ต้องเลือกชุดใหม่เพื่อที่จะให้คณะกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่เป็นหนึ่งเดียวกัน การบริหารงานของพรรคเต็มไปด้วยความมั่นคงและเติบโต เพื่อจะทำหน้าที่สนับสนุนการทำหน้าที่ของ ส.ส. ในสภาฯ รวมถึงการทำหน้าที่ของนายกรัฐมนตรี

ส่วนบิ๊กเซอร์ไพส์ที่จะมีในการประชุมครั้งนี้ จะเป็นอะไรนั้น ส่วนตัวยังไม่ทราบ แต่การที่ไปเทียบเชิญ พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ ให้มาดำรงตำแหน่งหัวหน้าพรรค ถือเป็นการขอร้องจากสมาชิกพรรค ที่ให้ความเคารพในตัวพลเอกประวิตร เป็นผู้อาวุโสที่สุดและเป็นบุคคลที่ได้รับการยกย่องจากภายในพรรค และเพื่อเป็นการแก้ปัญหาภายในพรรค พลเอกประวิตร ก็พร้อมที่จะมาช่วย แต่ทั้งนี่ก็ขึ้นอยู่กับเสียงโหวตในที่ประชุมว่าจะมีมติออกมาอย่างไร เพราะพลเอกประวิตร จะไม่มาร่วมประชุมเพื่อให้การประชุมในครั้งนี้เป็นไปอย่างอิสระและเป็นเอกภาพมากที่สุด ส่วนตัวขอย้ำอีกว่า พลเอกประวิตร ไม่ได้อยากใาเป็นหัวหน้าพรรค แต่ทางเราได้ไปร้องขอให้ท่านมาเป็น

ส่วนการที่ไปเทียบเชิญ พลเอกประวิตร ที่ป่ารอยต่อนั้น นายไพบูลย์ ย้ำว่า ตำแหน่งหัวหน้าพรรคจะต้องเลือกในที่ประชุมใหญ่อย่างถูกทุกขั้นตอน ไม่ใช่ไปตกลงกันเอง ทุกอย่างต้องเป็นไปตามข้อบังคับ ซึ่งการเลือกตั้งเป็นเรื่องของสมาชิกพรรค

ส่วนการเสนอชื่อหัวหน้าพรรคบุคคลอื่นนั้น ก็รอให้ในที่ประชุมเสนอชื่อมา และต้องผู้รับรองตามขั้นตอน ทั้งนี้ หากมีชื่อ พลเอกประวิตร เพียงชื่อเดียว สมาชิกก็ต้องลงคะแนนโหวตเช่นกัน

บทความที่เกี่ยวข้อง