นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล กล่าวถึงกรณีที่ ส.ส.ของพรรค เข้าไปช่วยเหลือกลุ่มนักศึกษาที่โดนจับกุมและอาจถูกโยงว่าเป็นผู้อยู่เบื้องหลังของกลุ่มผู้ชุมนุม ว่า ส่วนตัวมองว่าไม่เกี่ยวข้องกัน เพราะเป็นหารปกป้องสิทธิ์ขั้นพื้นฐานของระบอบประชาธิปไตยที่มีการแสดงความคิดเห็นอย่างสันติวิธี ส.ส.ของพรรคฯจึงเป็นตัวแทนของประชาชน ถ้าประชาชนโดนคุกคามหรือรังแก ก็เป็นหน้าที่ของผู้แทนราษฏรที่จะไปปกป้องสิทธิเสรีภาพขั้นพื้นฐานของสังคมไทยเพื่อให้ประชาธิปไตยเติบโตไปได้ในอนาคต
ทั้งนี้ นายพิธา ยังเรียกร้องไปยังรัฐบาล และ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ให้แสดงความจริงใจที่จะรับฟังปัญหา และอย่ามองประชาชนของประเทศที่มีความเห็นไม่ตรงกับรัฐบาลเป็นศัตรู ซึ่งที่ผ่านมาพลเอกประยุทธ์ ก็ได้แสดงออกว่าพร้อมที่จะรับฟังกลุ่มนักศึกษา แต่ 1 อาทิตย์ผ่านไป กลับมีหมายจับ 31 รายชื่อแกนนำนักศึกษา แต่ขณะเดียวกันมีบางคนใช้สิทธิ์วีไอพีชนคนตายยังมีหมายตั้ง 8 ครั้ง ก่อนจะออกหมายจับ ดังนั้นการกระทำกับคำพูดต้องตรงกัน
ส่วนการชุมนุมจะมีการยกระดับขึ้นอีกหรือไม่นั้น ต้องยอมรับว่า ประชาชนออกมาเรียกร้องสิทธิเสรีภาพในทุกๆด้าน ซึ่งทั้งหมดก็เป็นความล้มเหลวของรัฐบาลที่ไม่สามารถแก้ไขปัญหาวิกฤตต่างๆที่เกิดขึ้นได้ หากมองอย่างตรงไปตรงมา กลุ่มผู้ชุมนุมกำลังประสบปัญหาได้รับการกดขี่แลเมองไม่เห็นอนาคตในประเทศ จึงต้องกลับมามองในตัวของผู้ใหญ่เองว่าต้องแก้ไขอะไร การที่มีการปลุกปั่นยุยงให้ผู้ใหญ่ออกมาเรียกร้องเพื่อชนกับกลุ่มนักศึกษา จะเป็นเหตุการณ์ม็อบชนม็อบ และอาจะทำให้สถานการณ์บานปลายได้ ประเทศก็จะถึงทางตัน เพราะฉะนั้นถ้ารัฐบาลต้องการฟังเสียงของนักศึกษา ก็ต้องฟังด้วยจิตใจที่มีวุฒิภาวะ เปิดใจที่จะฟังถึงข้อเรียกร้อง และตอบสนองความต้องการของกลุ่มผู้ชุมนุมเพื่อให้อนาคตประเทศในวันข้างหน้าเป็นประเทศของมหาชน ไม่ใช่เป็นประเทศอภิสิทธิ์ชนของคนกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง