สศค. พร้อมเสนอแผนปฎิรูปโครงสร้างภาษีให้รมว.คลังคนใหม่พิจารณา ไม่รับปากจะได้ลดภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาเหลือ 10% ตามที่พปชร.หาเสียง แย้มเตรียมเปิดลงทะเบียนบัตรคนจนรอบใหม่ Q4/63

Highlight, การเมือง
3 สิงหาคม 2020

นายลวรณ แสงสนิท ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) เปิดเผยว่า สศค.ได้เตรียมเสนอแผนการปฎิรูปโครงสร้างภาษีให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังคนใหม่พิจารณาแล้ว แต่จะมีการเปลี่ยนแปลงไปจากที่เสนอหรือไม่นั้น ต้องขึ้นอยู่กับการพิจารณาของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังด้วย

สำหรับผลการศึกษาที่ผ่านมาของคณะกรรมการที่มีนายประสงค์ พูนธเนศ ปลัดกระทรวงการคลัง เป็นประธานนั้น ได้ศึกษาในสมมุติฐานที่แตกต่างจากปัจจุบัน ดังนั้นอาจต้องเปลี่ยนแปลงจากโครงสร้างที่ศึกษาแล้วเสร็จได้

อย่างไรก็ตาม แนวทางการปรับลดภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา เหลือ 10% จากปัจจุบันสูงสุด 35% ตามการหาเสียงของพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ต่อหรือไม่ ขึ้นอยู่กับการพิจารณาของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังคนใหม่เช่นกัน ซึ่งเรื่องดังกล่าวเป็นหนึ่งในหลายสมมุติฐานที่สศค.ศึกษา

“ต้องยอมรับว่าเมื่อสถานการณ์ด้านเศรษฐกิจเปลี่ยนแปลงไป สมมุติฐานด้านการจัดเก็บภาษีของกรมต่างๆ ย่อมเปลี่ยนแปลงไปด้วย จึงยังบอกไม่ได้ว่าจะปรับเพิ่มหรือลดตัวไหนในตอนนี้ แต่ในสถานการณ์เศรษฐกิจในขณะนี้ ยืนยันได้แค่ว่า จะไม่เหมาะสมหากต้องปรับเพิ่มภาษีประเภทใด เพราะยิ่งเป็นการซ้ำเติมประชาชนได้”นายลวรณ กล่าว

นอกจากนี้ นายลวรณ ยังกล่าวถึงความคืบหน้าการลงทะเบียนบัตรสวัสดิการแห่งรัฐรอบใหม่ ว่า สศค.มีความพร้อมในการเปิดลงทะเบียนรอบใหม่ แต่จากสถานการณ์โควิด-19 ทำให้ต้องเลื่อนออกไปก่อน อย่างไรก็ตามหากสถานการณ์ดังกล่าวคลี่คลายลงในเร็วๆ นี้ ก็พร้อมที่จะเปิดลงทะเบียนรอบใหม่ได้ภายในไตรมาสที่ 4 ของปีนี้แน่นอน

ส่วนการได้รับสิทธิ์สวัสดิการขั้นพื้นฐาน ที่ประกอบด้วย ค่าใช้จ่ายในการซื้อสินค้าอุปโภคบริโภคจำนวน 200 และ 300 บาท ค่าใช้จ่ายในการเดินทางและค่าก๊าชหุงต้ม ผู้ถือบัตรในปัจจุบันยังคงได้รับสิทธิ์อย่างต่อเนื่อง โดยกระทรวงการคลังได้ของบประมาณในปี 64 เพื่อใช้จ่ายดังกล่าวไว้อยู่แล้ว ดังนั้นผู้ถือบัตรจึงไม่ต้องกังวลว่าจะไม่ได้รับสิทธิ์ดังกล่าวอีก

ทั้งนี้ที่ผ่านมาในปี 61 รัฐบาลได้สนับสนุนงบประมาณในการช่วยเหลือประชาชนผู้มีรายได้น้อยและเกษตรกรที่ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 43,164.51 ล้านบาท ในปี 62 จำนวน 93,155.42 ล้านบาท ปี 63 จำนวน 47,843.56 ล้านบาท และปี 64 คาดการณ์ค่าใช้จ่ายที่ 54,729.25 ล้านบาท

บทความที่เกี่ยวข้อง