“หมอระวี” มั่นใจพ.ร.บ.นิรโทษกรรมไม่พ่นพิษ “สุดซอย” แบบปี 56 จ่อชง ร่างฯ เข้าสภา 30 พ.ย.นี้ เผยมีข้อเสนอจาก “พท.” ให้คลุมคดีทุจริตที่มีเหตุจากการเมือง
เมื่อวันที่ 16 พ.ย. นพ.ระวี มาศฉมาดล ส.ส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคพลังธรรมใหม่ กล่าวถึงข้อเสนอของนายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรรคไทยศรีวิไลย์ ที่ต้องการเพิ่มประเด็นในร่างพ.ร.บ.นิรโทษกรรม ใน 4 กรณี คือ คดีกบฎ คดีผิดประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 คดียุบพรรค ตัดสิทธิทางการเมือง และ คดีทุจริตที่มีแรงจูงใจทางการเมือง ว่า ตนยังไม่ได้พูดคุยกับนายมงคลกิตติ์ และยังไม่ทราบรายละเอียดดังกล่าว แต่กรณีการพูดคุยเพื่อพิจารณาเนื้อหาของร่างพ.ร.บ.นิรโทษกรรมที่ตนเสนอนั้นเป็นไปได้ เพราะขณะนี้ตนอยู่ระหว่างเตรียมการเนื้อหา โดยเดินสายพูดคุยกับแกนนำพรรคการเมืองต่างๆ เบื้องต้นมีประเด็นที่เป็นข้อเสนอมาจากพรรคเพื่อไทย โดยนพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ที่เสนอในประเด็นนิรโทษกรรมคดีทุจริตที่มีเหตุมาจากกการเมือง เป็นต้น นอกจากนั้นยังมีข้อเสนอ เช่น คดีอาญาที่รุนแรง การเผาสถานที่ราชการที่เป็นฝ่ายประชาชนซึ่งได้รับการลงโทษ ติดคุกแล้ว เป็นต้น ทั้งนี้ตนจะเดินสายหารือกับพรรคก้าวไกลด้วย
“ตอนนี้อยู่ในขั้นเตรียมการเสนอ ผมคาดว่าหากเป็นไปได้ จะเสนอให้นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎรในวันที่ 30 พ.ย.นี้ โดยรายละเอียดต้องได้รับเสียงสนับสนุนจาก ส.ส.จำนวนไม่น้อยกว่า 20 คน เพื่อเสนอร่างกฎหมาย และหากสามารถพูดคุยได้ทั้งฝ่ายค้านและฝ่ายรัฐบาล อาจทำให้ร่างกฎหมายดังกล่าวเลื่อนลำดับการพิจารณา นำไปสู่การตั้งกรรมาธิการ(กมธ.) และแล้วเสร็จทันสมัยประชุมสภาผู้แทนราษฎรนี้ ส่วนการรับฟังความเห็นของประชาชนนั้น เบื้องต้นอาจทำเป็นกระบวนการคู่ขนาน”นพ.ระวี กล่าว
นพ.ระวี กล่าวต่อว่า สำหรับความเห็นของฝ่ายค้าน รวมถึงฝ่ายรัฐบาลที่เสนอนั้นสามารถพูดคุยกันได้เพิ่มเติมว่าจะพิจารณาอย่างไร ซึ่งคุยกันได้ในชั้นกรรมาธิการ ทั้งนี้ยืนยันว่าร่างพ.ร.บ.นิรโทษกรรมที่เตรียมเสนอนั้นจะไม่เป็นต้นเหตุของความขัดแย้ง เหมือนกรณีการพิจารณาร่างพ.ร.บ.นิรโทษกรรมสุดซอย เมื่อปี 56 อย่างแน่นอนเพราะมีกรอบและกติกาที่เป็นเงื่อนไข