“วิปวุฒิสภา” มีมติบรรจุญัตติ ชง “ครม.” ทำประชามติทำรธน.ทั้งฉบับ 21 พ.ย.นี้ “วัลลภ” เผยต้องตั้งกมธ.ศึกษาก่อนกลับมาลงมติอีกครั้ง เชื่อ วุฒิสภาทำทัน เว้นมีการยุบสภา
เมื่อวันที่ 9 พ.ย. นายคำนูณ สิทธิสมาน ส.ว. ในฐานะโฆษกคณะกรรมาธิการกิจการวุฒิสภา (วิปวุฒิสภา) แถลงผลการประชุม ซึ่งพิจารณาวาระการประชุมวุฒิสภา วันที่ 14 – 15 พ.ย.นี้ ว่า วิปวุฒิสภา มีมติให้บรรจุญัตติที่สภาผู้แทนราษฎรมีมติเห็นชอบเสนอให้ครม. จัดการออกเสียงประชามติถามความเห็นประชาชนต่อการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ในวันที่ 21 พ.ย. เป็นเรื่องด่วน ทั้งนี้การเสนอดังกล่าวนั้นเป็นไปตาม ตามพ.ร.บ.ว่าด้วยการออกเสียงประชามติ พ.ศ.2565 มาตรา 9(4) โดยตามข้อบังคับการประชุมสภาฯ กำหนดว่าเมื่อสภาฯ ลงมติเห็นชอบกับญัตติดังกล่าว ให้ประธานสภาผู้แทนราษฎร แจ้งมติพร้อมสาระสำคัญให้วุฒิสภาทราบ ซึ่งวุฒิสภาต้องดำเนินการตามข้อบังคับต่อไป
นายคำนูณ ให้สัมภาษณ์เพิ่มเติมว่า ส่วนตัวด้วยว่าการลงมติในญัตติดังกล่าวแม้สภาฯ และ ส.ว. จะเห็นด้วยกับญัตติ แต่ไม่ได้หมายความว่า ครม. จะเห็นด้วย เพราะทางปฏิบัติ ครม. ต้องปรึกษากรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) โดยเฉพาะกรณีที่เสนอให้ ทำประชามติวันเดียวกับการเลือกตั้งทั่วไป โดยส่วนตัวมองว่ามีประเด็นต้องพิจารณา คือ เป็นเรื่องของกฎหมายคนละฉบับ กรรมการประจำหน่วยเลือกตั้งมีความแตกต่างกัน ขณะที่ระยะเวลาการปฏิบัติมีความเหลื่อมล้ำกัน เพราะการเลือกตั้งมีเวลามากสุด 60 วัน ส่วนทำประชามติมีกรอบเวลา 90-120 วัน ทั้งนี้การออกเสียงประชามติในเรื่องสำคัญ วันเดียวกันอาจมีผลดีและผลเสียต่อผู้ถูกรับเลือกตั้งของแต่ละพรรคได้ อย่างไรก็ดีการเสนอทำประชามติดังกล่าวเป็นคนละประเด็นกับเนื้อหาต่อกระบวนการจัดทำรัฐธรรมนูญใหม่ เช่น ตั้ง ส.ส.ร.
ขณะที่นายวัลลภ ตังคณานุรักษ์ ส.ว. ในฐานะวิปวุฒิสภา ให้สัมภาษณ์ด้วยว่า วิปวุฒิสภามีมติให้บรรจุวาระในวันที่ 21 พ.ย.นี้ โดยหลักการต้องตั้งคณะกรรมาธิการเพื่อพิจารณาศึกษา โดยมีกรอบระยะเวลาที่กำหนดไว้ ประมาณ 60 วัน อย่างไรก็ดีเรื่องดังกล่าวถือเป็นเรื่องสำคัญอาจใช้เวลาพิจารณาที่รวดเร็ว เบื้องต้นตนมองว่าหลังจากวันที่ 21 พ.ย.วุฒิสภาตั้งกรรมาธิการได้ การนำกลับเข้ามาให้ที่ประชุมวุฒิสภาได้ลงมติอาจอยู่ในช่วงเดือนม.ค.66 ส่วนตัวมองว่าการพิจารณาของวุฒิสภาจะทำได้ทัน ยกเว้นมีการยุบสภา