ครม. ทุ่มงบ 34,800 ล้านบาท ต่อโครงการคนละครึ่งเฟส 4 ปชช. ได้รับสิทธิ์อยู่แล้ว 27.78 ล้าน กดยืนยันในแอปพลิเคชั่นเป๋าตังตั้งแต่วันที่ 1 ก.พ. ใช้สิทธิ์ได้ในวันที่ 1ก.พ. ส่วนรายใหม่ ลงทะเบียน 10 ก.พ.ใช้สิทธิ์ได้ 17 ก.พ.
นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงภายหลังการประชุมคณะรัฐสนตรี (ครม.) ว่า ที่ประชุมครม. เห็นชอบอนุมัติโครงการเพิ่มกำลังซื้อให้แก่ผู้ที่มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ในระยะที่ 4 กรอบวงเงิน 8,070.724 ล้านบาท และโครงการเพิ่มกำลังซื้อให้แก่ผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือเป็นพิเศษระยะที่ 2 กรอบวงเงิน 1,351.981 ล้านบาท เพื่อช่วยเหลือเยียวยาและลดภาระค่าใช้จ่ายให้กับกลุ่มผู้ที่ถือบัตรในช่วงที่มีการระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 โดยรูปแบบการดำเนินการจะเป็นการให้เงินช่วยเหลือจำนวน 600 บาทต่อคน ตลอดโครงการระยะเวลา 3 เดือน ตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์ – 30 เมษายน 2565 โดยจะเป็นการเติมเงินเดือนละ 200 บาท จำนวนเวลา 3 เดือน เพื่อที่จะให้ประชาชนได้ซื้อสินค้าต่างๆในการช่วยเหลือค่าครองชีพ โดยจะมีผู้ที่ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ในส่วนของการเพิ่มกำลังซื้อระยะที่ 4 จำนวน 13.45 ล้านคน และผู้ที่ถือบัตรเพิ่มกำลังซื้อ ผู้ที่ต้องการให้การช่วยเหลือเป็นพิเศษระยะที่ 2 จำนวน 2.25 ล้านคน
ขณะเดียวกันครม. ได้มีการอนุมัติกรอบวงเงินจำนวน 34,800 ล้านบาท สำหรับโครงการคนละครึ่งระยะที่ 4 โดยจะมีการดำเนินการ 3 เดือน ตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์- วันที่ 30 เมษายน 2565 จำนวน 29 ล้านสิทธิ์ ในส่วนของการลงทะเบียนนั้น ประชาชนที่ได้รับสิทธิ์อยู่แล้วในเฟสที่ 3 จำนวน 27.78 ล้านสิทธิ์ สามารถไปกดยืนยันในแอปพลิเคชั่นเป๋าตังตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์เป็นต้นไป และสามารถใช้สิทธิ์ได้ในวันที่ 1 กุมภาพันธ์ ไปจนถึงวันที่ 30 เมษายน 2565 ส่วนอีกจำนวน 1 ล้านกว่า สามารถลงทะเบียนใหม่ได้ตั้งแต่วันที่ 10 กุมภาพันธ์ เป็นต้นไป และสามารถใช้สิทธิ์ได้ตั้งแต่วันที่ 17 กุมภาพันธ์ ถึงวันที่ 30 เมษายน 2565 โดยวงเงินที่รัฐบาลได้อนุมัติคนละ 1,200 บาท โดยสามารถนำไปชำระค่าสินค้าและบริการต่างๆได้ โดยโครงการนี้เป็นโครงการที่ประชาชนนั้นชื่นชอบและชื่นชมเป็นอย่างมากเพราะฉะนั้นแล้วรัฐบาลจึงพยายามดำเนินการเพื่อช่วยเหลือประชาชนในช่วงนี้.