“ทิพานัน” ย้อน “ก้าวไกล” ใช้กี่มาตรฐาน
“ทิพานัน” ย้อน “ก้าวไกล” ใช้กี่มาตรฐาน
“ทิพานัน” ย้อน “ก้าวไกล” ใช้กี่มาตรฐาน เหตุย้อนแย้งไม่เคารพศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์และขู่ใช้กฎหมายปิดปากประชาชน ชี้หยุดมั่วโยงคำวินิจฉัยยุบอนาคตใหม่เพราะต่างกรรมต่างวาระ จี้หาหลักฐานพิสูจน์ไม่เกี่ยวม็อบราษฎรหลังหัวหน้าการ์ดเป็นสมาชิกก้าวไกลตลอดชีพ
น.ส.ทิพานัน ศิริชนะ อดีตผู้สมัคร ส.ส.กทม.เขตจอมทอง-ธนบุรี อดีตรองโฆษกพรรคพลังประชารัฐ กล่าวถึงกรณีที่ นายชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรคก้าวไกล (ก.ก.) พร้อม ส.ส.พรรคแถลงการณ์กรณีนายณฐพร โตประยูร อดีตที่ปรึกษาประธานผู้ตรวจการแผ่นดิน ขอให้คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) พิจารณาวินิจฉัยและเสนอเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญสั่งยุบพรรค นั้น ถือว่าเป็นแถลงการณ์ที่แสดงให้เห็นว่าพรรคก้าวไกลมีความจริงที่น่ากระอักกระอ่วนในการกระทำสองมาตรฐาน มีความย้อนแย้งในหลักการของตัวเอง หลายครั้งพรรคก้าวไกลชี้นิ้วประณามผู้อื่นในการกระทำที่ตนเองก็ทำด้วย
พรรคก้าวไกลมีกี่มาตรฐานในการเคารพศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ สิทธิมนุษยชน และการประณามการใช้กฎหมายปิดปากประชาชน เพราะในขณะที่พรรคก้าวไกลดำเนินการใช้ตำแหน่งประกันตัวผู้ต้องหาคดีที่เกี่ยวข้องกับความผิดเกี่ยวกับความมั่นคงแห่งราชอาณาจักรโดยให้เหตุผลว่าบุคคลดังกล่าวยังคงเป็นผู้บริสุทธิ์เพราะยังไม่มีคำพิพากษาตัดสิน แต่กรณีของคุณณฐพรซึ่งก็เป็นผู้บริสุทธิ์เพราะยังคงเป็นเพียงจำเลยในคดีอาญานั้น นายชัยธวัชกลับด้อยค่าเรียกเขาว่าเป็นโมฆบุรุษ กล่าวหาว่ามีพฤติกรรมกล่าวหาเท็จซ้ำซาก ต้องการแสดงผลงานเพื่อให้พ้นคดี และเมื่อพิจารณาจากการกระทำที่ขู่ว่าจะฟ้องดำเนินคดีกับนายณฐพร ซึ่งเป็นประชาชนที่ใช้สิทธิตามกฎหมายยื่นคำร้องต่อ กกต. เพื่อตรวจสอบการดำเนินการของพรรคก้าวไกลนั้น จะถือว่านายชัยธวัช มีพฤติการณ์เข้าข่ายใช้กฎหมายปิดปากประชาชนที่ใช้สิทธิตามกฎหมายหรือไม่ เพราะพรรคก้าวไกลไม่น่าจะยื่นฟ้องนายณฐพรตามมาตรา 101 พรป. พรรคการเมืองได้เนื่องจากไม่มีหลักฐานคำพิพากษาตัดสินใดที่พิสูจน์ยืนยันว่าคำกล่าวของนายณฐพร เป็นความเท็จ
“นายชัยธวัชไม่สามารถกล่าวอ้างคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญในคดียุบพรรคอนาคตใหม่ให้มาเกี่ยวข้องกับกรณีที่นายณฐพรร้องเรียนพรรคก้าวไกลในครั้งนี้เพราะเป็นการกระทำของต่างพรรค ต่างกรรมต่างวาระกัน เหตุแห่งการกระทำที่ร้องยุบพรรคก้าวไกล เป็นคนละเหตุกับการร้องยุบพรรคอนาคตใหม่ เว้นแต่นายชัยธวัชกำลังยืนยันข้อเท็จจริงว่าพรรคอนาคตใหม่และพรรคก้าวไกลยังคงเป็นนิติบุคคลเดียวกันอยู่” น.ส.ทิพานัน กล่าว
สำหรับการพิสูจน์ข้อเท็จริงว่า ส.ส. พรรคก้าวไกลเข้าร่วมการชุมนุมในฐานะผู้สังเกตการณ์และพรรคก้าวไกลไม่เกี่ยวข้องกับการชุมนุมที่ฝ่าฝืนกฎหมายนั้น ขอให้พรรครวบรวมพยานหลักฐานและทำความเข้าใจบทบาทหน้าที่ความแตกต่างของผู้สังเกตการณ์ให้ชัดเจน เพราะที่ผ่านมาประชาชนต่างวิพากษ์วิจารณ์เคลือบแคลงความสัมพันธ์และบทบาทของพรรคก้าวไกลต่อการชุมนุมที่ผิดกฎหมาย รวมถึงสงสัยถึงพฤติการณ์ที่อาจเกินเลยบทบาทของผู้สังเกตการณ์ เช่น การเชิญชวนและเข้าร่วมการชุมนุม การดูแลความเรียบร้อยให้แก่ผู้เข้าชุมนุม การรับส่งผู้เข้าชุมนุมร่วมกับแกนนำ การใช้ตำแหน่ง ส.ส.ประกันตัวและความเกี่ยวข้องกับผู้ต้องหา รวมถึงการที่หัวหน้าการ์ดราษฎร “กลุ่ม WEVO” เป็นสมาชิกพรรคก้าวไกลแบบตลอดชีพอีกด้วย น.ส. ทิพานัน กล่าว
