นายสิระ เจนจาคะ ประธานกรรมาธิการ กฎหมาย การยุติธรรม และสิทธิมนุษยชน สภาผู้แทนราษฎร แถลงข่าวถึงวานนี้ ( 20 ม.ค. ) กรรมาธิการ ได้พิจารณาข้อเท็จจริงกรณีอัยการสั่งไม่ฟ้องประเด็นการได้สิทธิเช่าที่ดินระยะยาว บนพื้นที่ของสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์โดยไม่ผ่านกระบวนการประมูลแข่งขันตามขั้นตอนปกติตามที่นายวัชระ เพชรทอง อดีต ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ยื่นเรื่องต่อกรรมาธิการฯ เพื่อตรวจสอบนายสกุลธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัทเรียล แอสเสท ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด น้องของนายธนาธร จึงรุ่นเรืองกิจ อดีตหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ที่มีการให้เงินจำนวน 20 ล้านบาทกับเจ้าหน้าที่สำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ เพื่อแลกกับการได้สิทธิเช่าที่ดินดังกล่าวระยะยาว โดยฝ่ายอัยการ มีนายวีรพล โมระกรานต์ อัยการพิเศษฝ่ายสำนักงานคดีปราบปรามการทุจริต และนายประเสริฐ จรัญรัตนศรี อัยการผู้เชี่ยวชาญ เข้าชี้แจง
นายสิระ กล่าวต่อว่า การประชุมเมื่อวานนี้ยังไม่ได้รับข้อมูลที่ครบถ้วน จึงพิจารณาทำหนังสือถึงนายกรัฐมนตรี ซึ่งเป็นผู้กำกับดูแลสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ให้ดำเนินการผู้ใต้บังคับบัญชาให้ความร่วมมือกับกรรมาธิการ ซึ่งถ้าหากเจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่มาชี้แจงต่อกรรมาธิการ เราจะขอความเห็นที่ประชุมเพื่อไปประชุมนอกสถานที่ โดยจะไปประชุมที่กองปราบเองในเมื่อเชิญแล้วไม่มา
“ประชาชนสงสัยในคดีนี้ว่า คนรวยจะทำอะไรให้รอดพ้นคุกก็ได้ใช่หรือไม่ แต่ขณะที่คนจนต้องก้มหน้ายอมรับชะตากรรม จึงต้องตรวจสอบเรื่องนี้ให้กระจ่างชัด ผมขอฝากถึงผู้การกองปราบว่าต้องทำคดีนี้ให้โปร่งใส หรืออยากจะเป็นผู้ต้องหาเสียเอง ถ้าไม่มาหาผม เดี๋ยวเจอกันที่กองปราบ”นายสิระ กล่าว
นายสิระ ยังกล่าวต่อว่า ให้ประชาชนตีดสินถึงพฤติกรรมของนายธนาธร ที่เรียกร้องให้มีการปฎิรูปประเทศ แต่คนในครอบครัวกลับมีพฤติกรรมเช่นนี้ ตนคิดว่านายธนาธรควรกลับไปปฎิรูปครอบครัวตัวเองก่อน
ด้านนายชัยยันต์ ผลสุวรรณ์ ส.ส.ปทุมธานี พรรคเพื่อไทย ในฐานะกรรมาธิการ กล่าวว่า เจ้าหน้าที่กองปราบ และ สำนักงานทรัพย์สินพระมหากษัตริย์ ควรออกมาชี้แจงให้กับประชาชนรับทราบ เพราะคดีนี้เป็นที่สนใจของประชาชน และมีพิรุธอีกหลายข้อที่ยังต้องการความกระจ่างชัด