“สุทิน” รับ ห่วงคำวินิจฉัยศาล รธน. ทำสถานการณ์รุนแรงขึ้น เห็นด้วย กมธ.กฎหมาย จ่อเชิญทุกฝ่ายร่วมหาทางออกประเทศ ระบุ คกก.สมาฉันท์ รอท่าทีหลายฝ่ายก่อนตัดสินใจ
ประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน นายสุทิน คลังแสง กล่าวถึง
ตัวร่างพระราชบัญญัติประชามติของฝ่ายค้านว่า เมื่อวานนี้ รัฐสภาเป็นการรับหลักการ พ.ร.บ.ประชามติของรัฐบาลแล้ว ส่วนของฝ่ายค้านก็ต้องรอดูไปอีกระยะหนึ่ง แต่มองว่ากฎหมายเช่นนี้จะต้องมีคนชี้ชัดว่าเป็นกฎหมายที่เกี่ยวกับการปฏิรูปหรือไม่ และควรนำเข้าสภาใด เรื่องให้ฝ่ายค้านถอนตนไม่ติดใจ แต่อยากให้เป็นกรณีที่อยากจะให้หน่วยงานหรือองค์กรมาชี้แจงถ้าได้ข้อสรุปชัดเจน หากให้ถอนก็ถอนได้
ทั้งนี้เห็นควรว่าอยากให้ยื่นศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย เพราะเป็นหลักการและต้องชี้ว่าในอนาคตยังต้องทำอีกเยอะและเกรงว่าในอนาคตรัฐบาลจะเสนอกฎหมายปฏิรูปประเทศเข้ามาแบบมั่วๆ อีกหลายฉบับ
ส่วนหากยื่นศาลจะมีผลกระทบกับร่างพ.ร.บ.ประชามติของรัฐบาลหรือไม่นั้น ตนมองว่าไม่เกี่ยวเพราะร่างของรัฐบาลเดินหน้าไปแล้ว ฝ่ายค้านจะยื่นเฉพาะร่างที่ยื่นต่อสภาผู้แทนราษฎรว่ามาถูกทางไหม หากศาลชี้ว่าร่างนี้ผิด ก็ยึดร่างของรัฐบาล ก็เดินต่อไปได้แต่ถ้าศาลชี้ว่าเข้ามาถูกแล้วก็จะไม่แน่ใจว่าจะเดินต่ออย่างไร ทั้งนี้ไม่ว่าจะยื่นร่างของใครก็ได้ข้อสรุปอยู่ดี แต่ทั้งนี้ฝ่ายค้านก็อยากได้พ.ร.บ.ประชามติที่รวดเร็ว แต่เร็วก็ต้องถูกต้องด้วย
พร้อมกันนี้ นายสุทิน ยังได้กล่าวถึงคณะกรรมการสมานฉันท์ว่า ขณะนี้ได้รับแล้วและส่งมาในนามของประธานวิปฝ่ายค้าน หลังจากนี้จะนำเรื่องนี้เข้าสู่ที่ประชุมพรรคร่วมฝ่ายค้านในวันศุกร์นี้ ส่วนจะร่วมเป็นกรรมการด้วยหรือไม่นั้นต้องดูในที่ประชุมอีกครั้ง และต้องดูท่าทีของผู้ชุมนุม และฝ่ายอื่นด้วยว่าจะเข้าร่วมหรือไม่ ฝ่ายค้านก็ไม่มีปัญหา แต่ถ้าผู้ชุมนุมไม่ร่วมต้องให้ที่ประชุมพิจารณาอีกครั้ง
ส่วนกรณีที่ ส.ส.กทม.พรรคพลังประชารัฐ นายสิระ เจนจาคะ จะเปิดกรรมาธิการการกฎหมาย ให้หลายฝ่ายมาร่วมถกหาทางออกสังคม ตรงนี้ฝ่ายค้านก็เห็นด้วย และเป็นสิ่งที่ควรทำมากกว่าการตั้งกรรมการสมานฉันท์ แต่เรื่องนี้ยังไม่แน่ชัดว่าถ้าเปิดได้จริง ถ้าหากเปิดได้ก็เกรงว่ารัฐบาลจะไม่เข้าร่วมมากกว่า ถ้าหากรัฐบาลมาร่วมก็ค่อยมาพูดเรื่องกรอบเนื้อหากันอีกครั้ง
นอกจากนี้นายสุทิน กล่าวถึงการชุมนุมกันที่บริเวณห้าแยกลาดพร้าวในวันนี้ ขณะที่ศาลรัฐธรรมนูญนัดอ่านคำวินิจฉัย นายกรัฐมนตรี พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ปมอาศัยในบ้านพักหลวงว่า ส่วนตัวรู้สึกกังวลในหลายเรื่อง คือ
1.ผลการตัดสินมีผลต่อการยกหรือลดระดับการชุมนุมพอสมควร
2.ห่วงมาตรฐานของศาล และการยอมรับต่อกระบวนการยุติธรรมของประเทศ เพราะต้องยอมรับว่าที่ผ่านมามีการไม่ยอมรับในกระบวนการยุติธรรม ฉะนั้นการตัดสินวันนี้จะส่งผลในทางที่ดีขึ้นและแย่ลง
ส่วนพลเอกประยุทธ์ จะพ้นตำแหน่งนายกรัฐมนตรีหรือไม่นั้น ไม่ใช่ประเด็น เพราะแม้ไม่มีเรื่องศาล ผู้ชุมนุมก็เสนอให้ลาออกอยู่แล้ว และถ้ามีเรื่องนี้ด้วยก็มีน้ำหนักให้ลาออกเพิ่มอีก แม้จะรอดไม่หลุดตำแหน่งนายกรัฐมนตรีเรื่องของการให้ลาออกก็ยังเป็นข้อเรียกร้องอยู่เหมือนเดิม