โฆษกพรรคเพื่อไทย จี้ตรวจสอบเอาผิด เจ้าหน้าที่รัฐละเลยหน้าที่ ใช้ 2 มาตรฐานจัดการม็อบ หวั่นความรุนแรงซ้ำเหมือนอดีต
นางสาวอรุณี กาสยานนท์ โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวถึง สถานการณ์การชุมนุมเมื่อคืนที่ผ่านมา มีการสลายการชุมนุมและทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บเบื้องต้นเป็นจำนวนถึง 41 รายและ มี 5 รายที่ได้รับบาดเจ็บจากกระสุนจริง เหตุการณ์ดังกล่าวรัฐบาลต้องรับผิดชอบกับความรุนแรงที่เกิดขึ้นทุกกรณี
ทั้งนี้ การกระทำของเจ้าหน้าที่ตำรวจในการถอนกำลังออกและปล่อยให้มวลชน 2 กลุ่ม ปะทะกันจนเหตุการณ์บานปลาย ทำให้เกิดความสงสัยในความ 2 มาตรฐานของเจ้าหน้าที่ ที่จงใจเติมฟืนเข้ากองไฟ โดยเฉพาะการปล่อยให้ม็อบชนม็อบ มีการใช้กำลังและมีผู้ได้รับบาดเจ็บจากกระสุนปืนจริงด้วย ที่สำคัญมีเด็กและเยาวชนร่วมอยู่ในกลุ่มผู้ชุมนุมด้วย เรื่องดังกล่าวได้ถูกเผยแพร่ไปทั่วโลก จนทำให้องค์การระหว่างประเทศ ต้องออกมาเรียกร้องการปฏิบัติของเจ้าหน้าที่ในการรักษาความปลอดภัยแก่เยาวชน
โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวอีกว่า รัฐมีหน้าที่ในการปกป้องและคุ้มครองผู้ชุมนุม การตรวจค้นอาวุธผู้ชุมนุมทุกฝ่ายเป็นสิ่งที่รัฐต้องพึงกระทำเพื่อความปลอดภัยของทุกคน แต่รัฐบาลมีพฤติกรรม 2 มาตรฐานกับผู้ชุมนุมชัดเจน คนกลุ่มหนึ่งตำรวจไฟเขียวให้ผ่านด่านแนวกั้นเข้าไปหน้าสภาได้อย่างง่ายดาย แต่กับม็อบราษฎรตำรวจกลับใช้ความรุนแรงเกินกว่าเหตุ โดยเฉพาะการใช้น้ำผสมสารเคมีหรือแก๊สน้ำตาฉีดใส่ ทั้งที่ม็อบราษฎรมาชุมนุมด้วยความสงบ ปราศจากอาวุธ เช่นเดียวกัน ทั้งนี้ พรรคเพื่อไทยหวังว่าการชุมนุมในวันนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจจะดูแลจัดการการชุมนุมด้วยใจอันเป็นธรรม เพราะผู้ที่มาชุมนุมล้วนอยู่ในวัยเดียวกันกับลูกหลานของพวกท่าน
“พรรคเพื่อไทยและส.ส.พรรคเพื่อไทยขอประณามการทำงานของรัฐบาลและเจ้าหน้าที่รัฐ และ ส.ส.พรรคเพื่อไทยจะเรียกร้องให้มีการตรวจสอบผู้มีส่วนเกี่ยวข้องในการใช้ความรุนแรงเกินกว่าเหตุจนมีผู้บาดเจ็บทั้งในคณะกรรมาธิการที่เกี่ยวข้องและตั้งกระทู้ถามในสภา จะไม่ยอมปล่อยให้เกิดวัฒนธรรมลอยนวลพ้นผิด เพราะเป็นเรื่องของชีวิตผู้คน” นางสาวอรุณีกล่าว