ผู้สอบบัญชีการบินไทยแจงศาลล้มละลายเจ้าหนี้ตั๋วการบินไทย มีสิทธิ์ได้รับชำระหนี้ ระบุรายการตั๋วยังไม่ได้รีฟันด์ คะแนนรอยัลออร์คิดที่สะสมถูกบันทึกในรายการหนี้สิน ซีเอฟโอแจงหนี้สินหมุนเวียนการบินไทยรวมกว่า 1.8 หมื่นล้าน เจ้าหนี้รวมกว่า 2 ล้านราย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าวันนี้ (20 ส.ค.) ที่ห้องพิจารณาคดีที่ 15 ศาลล้มละลายกลาง ถ.แจ้งวัฒนะ ศาลล้มละลายกลางได้นัดไต่สวนคำขอฟื้นฟูกิจการบริษัทการบินไทย จำกัด (มหาชน) ครั้งที่ 2 โดยในวันนี้มีการนัดหมายพยานฝ่ายการบินไทยจำนวน 2 คน มาให้การในการสอบถาม สืบพยานรวมทั้งรับการซักค้านจากเจ้าหนี้ที่ยื่นคัดค้านการจัดทำแผนฟื้นฟูซึ่งศาลได้รับทราบว่ามีผู้คัดค้านแผนขอถอนการยื่นคัดค้านไป 1 รายคงเหลือผู้คัดค้าน 15 ราย โดยเจ้าหนี้ที่เหลือซึ่งมีการยื่นคัดค้านเช่น สหกรณ์ออมทรัพย์วชิรพยาบาล และบริษัท ทิพยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) รวมทั้งมีเจ้าหนี้ที่เป็นผู้เสียหายรายย่อยจากการซื้อตั๋วโดยสารแล้วยังไม่สามารถขอเงินค่าโดยสารจากบริษัทการบินไทยได้
ทั้งนี้ทนายความฝ่ายผู้คัดค้านการจัดทำแผนการฟื้่นฟูได้สอบถาม จากพยานของบริษัทการบินไทย 2 ราย ได้แก่ นายชาย เอี่ยมศิริ รักษาการรองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ และสายการเงินและการบัญชี (CFO) ของการบินไทย และตัวแทนจากบริษัท ดีลอยท์ ทู้ช โธมัทสุ ไชยยศ สอบบัญชี จำกัด ในฐานะผู้สอบบัญชีของบริษัทการบินไทย ในหลายประเด็น
โดยในส่วนของเจ้าหนี้ที่เป็นเจ้าหนี้ตั๋วโดยสารทนายได้สอบถาม CFO ของการบินไทยว่ามีความเป็นไปได้หรือไม่ที่จะมีการตกหล่นในการบันทึกรายชื่อของผู้โดยสารที่มีการซื้อตั๋วจากการบินไทยแล้วแต่ยังไม่ได้รับบริการการบิน
ซึ่ง CFO ชี้แจงว่าอาจเกิดขึ้นได้เพราะจำนวนเจ้าหนี้ของการบินไทยทั้งหมด 2 ล้านราย ในส่วนของหนี้ตั๋วโดยสารที่มีการบันทึกรวมอยู่ในหนี้สินทรัพย์ไม่หมุนเวียน ซึ่ง ณ วันที่ 31 มี.ค.ส่วนนี้การบินไทยมีหนี้ในส่วนนี้อยู่ 1.8 หมื่นล้านบาทเศษจากหนี้สินทั้งหมด 3.49 แสนล้านบาท ซึ่งเป็นค่าส่วนที่เป็นตั๋วโดยสารที่มีการซื้อไปแล้วยังไม่ได้รับบริการ 4 แสนราย วงเงินรวมประมาณ 1 หมื่นล้านบาท โดยบริษัทพยายามหามาตรการที่จะเยียวยาผู้โดยสารโดยออกเป็นคูปองที่จะไปแลกเป็นบริหารอื่นๆ แต่ในส่วนนี้ผู้คัดค้านโต้เถียงว่าคูปองนั้นไม่สามารถนำไปซื้อข้าวกินได้โดย CFO บอกว่าทำได้หากไปแลกในส่วนของครัวการบินไทยแต่เจ้าหนี้พยายามสอบถามว่าตนจะได้เงินคืนเมื่อไหร่เพราะเงินที่ซื้อตั๋วมาเป็นเงินที่เก็บมาด้วยความยากลำบาก
ศาลจึงชี้แจงว่าขั้นตอนว่าจะได้เงินค่าโดยสารคืนเมื่อไหร่ในจำนวนเท่าไหร่เป็นขั้นตอนรายละเอียดที่อยู่ในการจัดทำแผนฟื้นฟู ขณะนี้เป็นเพียงขั้นตอนของการพิจารณาการคัดค้านรายชื่อผู้ทำแผน หรือคัดค้านว่าผู้ยื่นคำร้องมีเหตุให้ฟื้นฟูกิจการหรือไม่เท่านั้น แต่ก่อนหน้านี้ศาลได้มีการคุ้มครองลูกหนี้ทุกรายไว้แล้ว
อย่างไรก็ตามก่อนการพักพิจารณาคดีผู้พิพากษาได้สอบถามพยายานรายที่ 2 ได้แก่บริษัท ดีลอยท์ในฐานะผู้สอบบัญชีของบริษัทการบินไทย ว่าค่าตั๋วโดยสารที่ผู้โดยสารยังไม่ได้มารีฟันด์กับบริษัทรวมทั้งคะแนนที่มีการสะสมไว้ในบัตรรอยัลออร์คิดพลัสของการบินไทย ตามหลักมาตรฐานทางบัญชีจะอยู่ในส่วนใด ผู้สอบบัญชีชี้แจงว่าในส่วนของตั๋วโดยสารที่ยังไม่ได้มีการรีฟันด์ในทางบัญชีเรียกว่ารายการรายรับที่ยังไม่ถือว่าเ้ป็นรายได้ ซึ่งในส่วนนี้ถือว่าเป็นหนี้สินที่การบินไทยมีหน้าที่ต้องชำระเช่นกัน ในส่วนของคะแนนรอยัลด์ออร์คิดพลัสที่มีการสะสมไว้ส่วนของผู้โดยสารในทางบัญชีก็ได้มีการประมาณการคะแนนที่จะใช้เป็นมูลค่าเทียบเท่ารายการหนี้สินแล้วมีการบันทึกไว้เช่นกัน
ส่วนประเด็นอื่นๆที่มีการซักถามจากพยาน เช่นความเหมาะสม และขอบเขตงานของบริษัท อีวายคอร์ปอเรท แอดไวซอรี่ เซอร์วิสเซส จำกัด รวมทั้งค่าตอบแทนที่บริษัทอีวายฯจะได้รับจากบริษัทการบินไทยเดือนละ 15 ล้านบาทว่ามีความเหมาะสมหรือไม่