นายเทพไท เสนพงศ์ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะรองประธานกรรมาธิการกิจการสภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงกรณีที่มีกระแสข่าวมี ส.ส.บางคนที่เป็นอนุกรรมาธิการไปตบทรัพย์จากอธิบดีกรมทรัพยากรน้ำบาดาล และเรื่องนี้นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร มีดำรัสที่จะส่งมอบเรื่องนี้ให้กรรมาธิการกิจการสภาเป็นผู้ตรวจสอบ ตนในฐานะที่เป็นกรรมาธิการคณะนี้ จะได้มีการหารือกับนายอนันต์ ผลอำนวย ประธานกรรมาธิการกิจการสภา ซึ่งคาดว่า ประธาน กมธ.เกรงใจการที่จะสอบเรื่องแบบนี้ แต่เมื่อนายชวนมีดำริมาก็ถือว่าเป็นหน้าที่ของ กมธ.โดยตรงที่จะต้องดำเนินการเรื่องที่เกี่ยวกับความไม่ชอบมาพากลหรือเหตุการณ์ไรก็ตามที่เกิดขึ้นในสภาผู้แทนราษฎร และเชื่อว่าเรื่องนี้คงจะไม่ยากในการตรวจสอบ เพราะไม่มีอะไรซับซ้อน ตัวละครที่เกี่ยวข้องก็มีไม่กี่คน กมธ.ก็อาจจะเชิญอธิบดีกรมทรัพยากรน้ำบาดาล และคณะอนุ กมธ.ทั้งหมดมาสอบถาม คิดว่าน่าจะได้ผลสรุปโดยเร็ว

นายเทพไท กล่าวว่า ส่วนตัวเห็นว่าเรื่องแบบนี้ กระแสข่าวแบบนี้เป็นเรื่องที่เป็นความจริงที่เกิดขึ้นได้ เพราะที่ผ่านมามีการซุบซิบนินทากันในหมู่ ส.ส.มาโดยตลอดว่า มีการตั้งแก๊งตั้งก๊วนเพื่อที่จะไปตบทรัพย์หาประโยชน์จากการพิจารณา กมธ.งบประมาณ เพราะเห็นได้ว่าบางคนอยากเป็น กมธ.ชุดนี้จนแบบตัวสั่น ไม่ได้เป็นก็ออกมาโวยวาย

“บางคนก็ทำตัวเป็นมืออาชีพ จองคิวที่จะเป็น กมธ.โดยตลอด ซึ่งคนที่เป็น กมธ.งบประมาณก็มีบทบาทสำคัญ และเป็นที่เกรงกลัวของข้าราชการระดับสูง ระดับอธิบดี ระดับเจ้ากระทรวง เพราะคนเหล่านี้เวลาพิจารณาก็จะแบ่งทีมกันทำงาน อย่างเช่น ไปล็อบบี้นอกวง เพื่อที่จะเอางบประมาณไปลงในเขตพื้นที่ตัวเอง บางส่วนก็ทำหน้าที่ตัดงบประมาณในที่ประชุม หรือว่าแขวนงบประมาณ ไปถึงการต่อรองเอาโครงการเพื่อที่จะทำรับเหมา ซึ่งปรากฎการณ์แบบนี้เกิดขึ้นอยู่เป็นประจำ แต่เพียงที่ผ่านมาก็ไม่มีใคระชพูดเรื่องนี้ขึ้นมา รอบนี้ก็มีอธิบดีกรมทรัพยากรน้ำบาดาลได้พูดขึ้นมา เลยทำให้เป็นที่สนใจของประชาชน” นายเทพไท กล่าว

ทั้งนี้ นายเทพไท กล่าวว่า ตนเป็น ส.ส.มาหลายสมัย และเป็นนักการเมืองมาเกือบ 20 ปี และไม่เคยเป็น กมธ.งบประมาณ ก็น่าจะตรวจสอบเรื่องนี้ได้อย่างตรงไปตรงมา และคิดว่าถึงเวลาที่จะสะสาง กวาดล้างพวกที่หาประโยชน์หรือแอบแฝงอยู่ใน กมธ.งบประมาณ ที่พยายามจะทำตัวเป็นเจ้าพ่องบประมาณและทำแบบนี้มาทุกๆปีคิดว่าครั้งนี้น่าจะเป็นโอกาสที่จะทำให้กระจ่างและจะนำเรื่องนี้เสนอต่อประธานสภาผู้แทนราษฎรเพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป แต่ทั้งนี้การลงโทษหรือไม่ ไม่ได้อยู่ที่ กมธ.ชุดนี้ แต่ไปอยู่ที่องค์กรอื่น เพียงแต่ว่าเราสามารถนำข้อมูลที่รวบรวมได้นำเสนอประธานสภา เพื่อนำเสนอต่อไปที่ ป.ป.ช. หรือคณะกรรมการจริยธรรม ซึ่งก็แล้วแต่ดุลพินิจของประธาน

ส่วนกรณีที่นายชวน บอกว่า นายอนันต์ ไม่รับทำกรณีนี้นั้น นายเทพไท บอกว่า หลายครั้ง ประธานอนันก็เกรงใจ ทุกครั้งก็จะปฏิเสธ ก็กลัวว่าจะมีผลกระทบแต่ตนคิดว่าเรื่องนี้ก็จะคุยกับประธาน กมธ.ว่าเป็นภาระหน้าที่ของ กมธ. ดีกว่าไมปมอบให้ กมธ.ชุดอื่นๆที่ไม่มีหน้าที่โดยตรงเข้ามาทำ ซึ่งต่างกันที่ประธาน กมธ.ชุดนี้ไม่อยากทำ ประธานชุดอื่นไม่มีหน้าที่แต่อยากทำ ดังนั้นต้องคุยบทบาทหน้าที่ของ กมธ.แต่ละชุดว่ามีหน้าที่อย่างไร จะปฏิเสธความรับผิดชอบในหน้าที่ไม่ได้ ต้องทำ ทำได้แค่ไหนก็เอาแค่นั้น

• Facebook
• Twitter
• Line