ที่ศาลาว่าการ กทม. ดินแดง ได้มีการประชุมสภากรุงเทพมหานคร โดยพิจารณาวาระสำคัญคือ คณะกรรมการวิสามัญฯ รายงานผลการพิจารณา ญัตติร่างข้อบัญญัติกรุงเทพฯ เรื่อง ค่าธรรมเนียมการให้บริการในการจัดการสิ่งปฏิกูลหรือมูลฝอยตามกฎหมายว่าด้วยการสาธารณสุข พ.ศ. … เพื่อพิจารณาในวาระที่ 2 และวาระที่ 3 ที่ประชุมสภา กทม.ไม่มีการแปรญัตติ และไม่มีคณะกรรมการสงวนความเห็น ที่ประชุมจึงมีการโหวตร่างข้อบัญญัติฯ ดังกล่าว ผลคือ เห็นชอบ 34 คน ไม่เห็นชอบ 0 คน งดออกเสียง 2 คน จากผู้เข้าประชุม 36 คน โดยจะมีการประกาศใช้ข้อบัญญัติในราชกิจจานุเบกษาต่อไป
.
นายจักกพันธุ์ ผิวงาม รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เปิดเผยภายหลังการประชุมว่า ปัจจุบันกรุงเทพมหานครต้องรับภาระจัดการขยะในปริมาณสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยในแต่ละวันต้องจัดการขยะเฉลี่ยหลายพันตัน ซึ่งมีใช้ค่าใช้จ่ายในการกำจัดอยู่ที่ 2,300 บาทต่อตัน เมื่อปริมาณขยะมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ การแยกขยะจึงเป็นอีกแนวทางสำคัญที่จะช่วยลดภาระในด้านการจัดการขยะ โดยจะมีผลบังคับใช้ในอีก 180 วัน
.
หากพิจารณาอัตราค่าธรรมเนียมใหม่ แบ่งออกได้เป็น 2 กลุ่ม คือ บ้านที่มีการคัดแยกขยะ หากมีการจัดการขยะไม่เกิน 20 ลิตรต่อวัน จะมีค่าบริการเพียง 10 บาทต่อเดือน, หากขยะเกิน 20 ลิตร แต่ไม่เกิน 1 ลูกบาศก์เมตรต่อวัน จะมีค่าบริการทุก 20 ลิตร หน่วยละ 60 บาท, หากขยะเกิน 1 ลูกบาศก์เมตรต่อวัน ค่าบริการจะอยู่ที่ 3,250 บาทต่อหน่วย
.
ส่วนกลุ่มที่ 2 บ้านที่ไม่มีการคัดแยกขยะ หากมีการทิ้งขยะไม่เกิน 20 ลิตรต่อวัน จะมีค่าบริการ 30 บาทต่อเดือน, หากขยะเกิน 20 ลิตร แต่ไม่เกิน 1 ลูกบาศก์เมตรต่อวัน จะมีค่าบริการทุก 20 ลิตร หน่วยละ 60 บาท, หากขยะเกิน 1 ลูกบาศก์เมตรต่อวัน ค่าบริการจะอยู่ที่ 4,750 บาทต่อหน่วย
.
ทั้งนี้ การปรับอัตราค่าธรรมเนียมดังกล่าวเพื่อส่งเสริมให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการลดและคัดแยกขยะอย่างจริงจัง อีกทั้งข้อบัญญัติใหม่ยังมุ่งหวังให้ประชาชนตระหนักถึงความสำคัญของการรักษาความสะอาดและการจัดการสิ่งแวดล้อม
.
สำหรับการประชาสัมพันธ์ข้อมูลเกี่ยวกับการปรับอัตราค่าธรรมเนียมและการคัดแยกขยะจะถูกดำเนินการอย่างต่อเนื่อง ทางกรุงเทพมหานครจะเปิดให้ประชาชนลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการ ผ่านสมาร์ตโฟนในแอปพลิเคชัน BKK ของ กทม. หรือ วอล์กอินมาที่ฝ่ายรักษาความสะอาด สำนักงานเขตทั้ง 50 เขต